สาวร้องกองปราบเอาผิดคนร้าย สวมบัตรประชาชนเปิดบัญชีธนาคาร เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้านพี่สาวตั้งข้อสงสัยการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ
จากกรณีที่ นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ วัย 24 ปี ถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ที่มีบัตรประชาชนอยู่ และถูกคนร้ายลักลอบนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารถึง 9 บัญชี ก่อนจะพบว่าบัญชีทั้งหมดมีการนำไปใช้ในการ กระทำในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นได้ถูกจับกุมและส่งตัวไปให้ สภ.บ้านตาก จังหวัดตาก ดำเนินคดี เนื่องจากมีหมายจับในคดีฉ้อโกงทรัพย์
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาวณิชา พร้อมพี่สาว ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่นำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีและนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิดหลอกลวงประชาชน โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้เปิดบัญชีที่ถูกนำไปใช้กระทำผิด ก่อนจะทราบว่าในวันที่ 28 ธันวาคม ว่าตนเองมีหมายเรียก แต่วันนั้นตนเองไม่อยู่บ้าน ก่อนที่จะมีตำรวจเดินทางมาพร้อมหมายจับมาติดต่อที่บริษัทที่ทำงานเพื่อตามตัว แต่ตนเองไม่อยู่ จึงตัดสินใจเข้าพบกองปราบปรามในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 6 มกราคม เพื่อจะแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวและส่งไปยังจังหวัดตาก ก่อนที่ตำรวจจังหวัดตากจะส่งตัวฝากขัง และศาลไม่ให้ประกันตัว
ซึ่งต่อจากนี้ จะดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับคนที่นำบัตรของตนเองไปใช้และในส่วนของทางธนาคาร ก็อยากขอให้ทางธนาคารให้มีความรัดกุม ในการรับเปิดบัญชีหรือมีการตรวจสอบใบหน้า และหลักฐานของผู้เปิดบัญชี เพราะบัตรประชาชนที่คนร้ายนำไปใช้มีการแจ้งยกเลิกและทำบัตรใหม่ไปแล้ว เพื่อป้องกันการถูกสวมบัตรประชาชนแบบตนเอง
ขณะที่นางสาวปุญญาดา พี่สาว ตั้งข้อสังเกตถึงการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดตากว่า เหตุใดถึงมีการทำสำนวนว่ามีการจับกุมตัวน้องสาวตนเอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว น้องสาวตนเองเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบด้วยตนเอง แต่ในใบสำนวนไม่ปรากกฎว่าน้องสาวตนเองเดินทางเข้าพบ รวมถึงสำนวนการสอบสวนยังไม่มีความละเอียดรอบคอบ และไม่มีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยถูกส่งตัวไปฝากขังต่อศาลทันที