โซเชียลหัวร้อนแทน อัดยับ สธ.เรียกคืนเงินเดือนบุคลากร ระบุจ่ายเงินเดือนเกินสิทธิ เรียกร้องหาทางแก้ปัญหาด่วน! “ปิยสกล” สั่งหาต้นตอความผิด ดูแลให้เกิดผลกระทบน้อยสุด ด้านรองปลัด สธ.เล็งขอผ่อนชำระกับคลัง เพื่อไม่เกิดภาระมากเกินไป และคนทำผิดต้องรับผิดชอบ
เฟซบุ๊กเพจ หมออนามัยขี้mouth ได้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรียกเงินเดือนเกินสิทธิ์คืน ในกลุ่มพนักงานราชการและลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 11 ธ.ค. 2555 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2557 คนละประมาณ 20,000-25,000 บาท ซึ่งมาจากการทำบัญชีเงินเดือนผิดพลาด จนได้รับเงินเดือนเกินสิทธิ์มาถึง 5 ปี โดยขณะนี้มีการเรียกเงินเดือนเกินสิทธิคืนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะสมุทรปราการเรียกคืน 29 ราย ศรีสะเกษ 91 ราย โดยเรียกร้องว่า คนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นกับการทำเงินเดือนผิดพลาด ทั้งใน สธ. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ต้องมีส่วนรับผิดชอบในกรณีนี้หรือไม่
นายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการชมรมนักวิชาการสาธารณสุข (ประเทศไทย) และเลขาธิการสมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ กล่าวว่า การเรียกเงินเดือนเกินสิทธิคืนเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2561 แต่มาเป็นกระแสช่วงนี้ เพราะเกิดเหตุมากที่สุดที่ จ.ศรีสะเกษ ถึง 91 ราย สมุทรปราการ 29 ราย และยังมีพื้นที่อื่นๆ อีก เช่น ตราด ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ เป็นต้น โดยตำแหน่งกระจายๆ ไป อาทิ นักวิชาการสาธารณสุข เทคนิกการแพทย์ กายภาพ แพทย์แผนไทย ทั้งนี้ น่าจะมาจากความผิดพลาดของคนทำบัญชี ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น คนรับกรรม คือ บุคลากรที่เพิ่งรับการบรรจุเป็นข้าราชการ แม้การเรียกเงินคืนเฉลี่ย 5 ปีจะอยู่ที่ 25,000 บาท ดูไม่มาก แต่สะท้อนถึงการบริหารจัดการระบบ จึงอยากให้ผู้บริหาร สธ. ออกมาจัดการเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม พบว่า มีการเรียกคืนสูงสุดคือ 59,000 บาท คาดว่าน่าจะเกิดจากการช่วงหลายปีก่อนพนักงาน สธ. ที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ ออกมาเรียกร้องขอปรับเงินเดือนขึ้น เนื่องจากบรรจุเป็นข้าราชการแล้ว แต่กลับมีการคิดเงินเกิน จึงทำให้ต้องเรียกคืน โดยจำนวนคนที่ถูกเรียกคืนเงินไม่มีวิชาชีพพยาบาล เลยมองว่าเป็นเรื่องของวุฒิการศึกษาตั้งต้นที่ ปวส. ปวช. หรือปริญญาตรี ซึ่งการเรียกเงินคืนในจำนวนมากภายในเวลาไม่กี่เดือนมีผลกระทบ เพราะหลายคนมีภาระต้องใช้เงิน
ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สธ. กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยได้กำชับให้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ. ให้การดูแลบุคลากรในสังกัด สธ.ให้ดีที่สุด โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ. กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ตรวจสอบพบการคำนวณตัวเลขเงินเดือนผิดตั้งแต่พื้นที่ จึงได้มอบให้พื้นที่ดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะมีการคิดและจ่ายเงินเกินไป ซึ่งในระบบราชการเมื่อคิดเกิน ต้องเรียกคืนตามกฎเกณฑ์ของราชการ ซึ่งกลุ่มนี้เดิมเป็นพนักงาน สธ. และเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ได้ปรับและบรรจุเป็นข้าราชการก่อนวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ซึ่งหลังจากบรรจุ ทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ออกมาตรการ และกำหนดเงินเดือนใหม่ให้กลุ่มนี้ ณ วันที่ 1 ธ.ค. 2557 ซึ่งเงินจะมากกว่าเดิม แต่มีวิธีคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่จะมีการคำนวณผิดตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งส่วนของความผิดพลาดก็ต้องหาผู้รับผิดชอบด้วย โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ สธ.แต่ละพื้นที่ที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบว่า ในจังหวัดที่เกิดความผิดพลาดของการคำนวณตัวเลขเงินเดือน จากสาเหตุใด เป็นความผิดพลาดจากส่วนใดกันแน่ นอกจากนี้ ในส่วนของการเรียกเงินคืนนั้น สธ.จะทำหนังสือเพื่อขอทางกระทรวงการคลังในการผ่อนชำระหนี้ โดยขอยืดเวลาออกไป และลดจำนวนการจ่ายรายเดือนลง น่าจะช่วยได้บ้าง ซึ่งผู้บริหาร สธ.ต่างเป็นห่วง และหาทางช่วยเหลืออย่างแน่นอน