อัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกโรงแฉ มีตำรวจเอี่ยวคดีจ้างทำ ข้าวกล่อง 10,000 กล่อง และมีการวางแผนล่วงหน้า
จากกรณี นางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ชาว ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ถูกนางธนิตา จันทร์อิ่ม อายุ 34 ปี ทำสัญญาว่าจ้างให้ทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง และน้ำดื่ม 10,000 ขวด เพื่อส่งโรงงานใน จ.สุโขทัย แต่กลับถูกเบี้ยวอ้างว่าทำผิดสัญญา ทำให้สูญเงินไปร่วม 1 ล้านบาท
ล่าสุด เพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ว่า ตำรวจสภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ คุมตัว 2 มิจฉาชีพหลอกลวงฉ้อโกงให้ผลิตข้าวกล่อง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกง แล้ว
ขณะที่เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า หลังทีมงานลงพื้นที่ดูสัญญาทั้งหมด พบว่าเป็นการกุเรื่องขึ้นมา ไม่ได้มีโรงงานตามที่สัญญาสัมปทานกล่าวอ้าง เป็นกลอุบายหลอกผู้เสียหาย และยังมีการเปลี่ยนสัญญาหลายครั้ง เมื่อเหยื่อหลงกลจึงตกลงซื้อสัมปทานดังกล่าว แล้วจ่ายเงินค่าสัมปทานจำนวน 106,000 บาท
ซึ่ง นางธนิตา เป็นหัวโจก หลังได้เงินมัดจำไปแล้ว ก็ใช้กลอุบายเพื่อยึดเงินมัดจำ จากนั้นก็ทำสัญญาฉบับหนึ่งขึ้นมาว่าต้องผลิตข้าว 1 หมื่นกล่อง น้ำ 1 หมื่นขวด ไข่ต้ม 1 หมื่นฟอง แล้วแยกเป็น 3 สัญญา แต่ละสัญญาถ้าทำไม่สำเร็จจะมีโทษปรับ เช่นข้าวกล่องรับซื้อ 35 บาท ปรับ 3.5 แสน ทำให้เหยื่อเสียดายเงินมัดจำจึงยอมทำสัญญา ก่อนดึงเวลาส่งมอบ พอเหยื่อผลิตไม่ทันจึงถูกบอกเลิกสัญญาเพื่อยึดเงินมัดจำและเรียกเงินค่าปรับ โดยนางธนิตาก่อคดีฉ้อโกงใน จ.อุตรดิตถ์มาแล้ว 6 ราย ใช้วิธีคล้ายๆ กัน
นอกจากนี้ยังมีคนมีสีซึ่งเป็นตำรวจมาช่วยเหลืออิ๋ว และได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าปรับ โดยมีการการวางแผนไว้ล่วงหน้า แล้วให้ตำรวจบอกเหยื่อว่าทำผิดสัญญาต้องชดใช้ให้เขา การที่เอาตำรวจมานั้น เพื่อให้ชาวบ้านหวาดกลัว