เครือข่ายชาวกะเหรี่ยง เดินทางเข้าขอบคุณ DSI ที่สามารถติดตามค้นหาจนพบหลักฐานว่าบิลลี่ถูกอุ้มฆ่า พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้ DSI เร่งเดินหน้าหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
แกนนำเครือข่ายชาวกะเหรี่ยง เดินทางเข้ามอบช่อดอกไม้ เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจ ต่อ พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่สามารถติดตามความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ซึ่งต่อมาพบหลักฐานชิ้นส่วนโครงกระดูก ถูกเผาในถังน้ำมัน และผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับมารดาของบิลลี่ ทำให้เชื่อว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้ว
พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องใน 4 ประเด็น คือ ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ให้กับครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นธรรม และอยากให้ช่วยผลักดัน ให้รัฐบาลพิจารณาเร่งรัดเข้าเป็นภาคี และให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ซึ่งรัฐบาลไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคี และช่วยผลักดันให้รัฐบาลไทย เร่งรัดออกกฎหมายใหม่หรือแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจทางกฎหมายโดยมิชอบ เพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะไม่ถูกกระทำโดยผู้ใช้อำนาจรัฐ
โดยนายเกรียงไกร ชี้ช่วง ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยง กล่าวว่ายังคงมีความมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงฝากบอกไปยังผู้ก่อเหตุ ให้ออกมายืดอกรับความจริง และรับสารภาพ แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
พร้อมกับอยากให้สังคมเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา คนอยู่กับป่า เพราะเป็นวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ได้เป็นผู้บุกรุกป่า ตามที่เจ้าหน้าที่พยายามใส่ร้ายแต่อย่างใด
ด้านพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำงานแบ่งเป็น 2 ทาง คือการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และการสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน หาตัวผู้กระทำผิด
วันนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงสอบปากคำ พี่น้องฝ่ายมารดา ของนายบิลลี่ เพื่อยืนยันในบางประเด็น
ซึ่งในส่วนของประเด็นดีเอ็นเอ ที่พบว่าพันธุกรรมมีการสืบทอดทางมารดาตรงกันกับมารดาของนายบิลลี่ จะสามารถยืนยันในชั้นศาลได้หรือไม่ ว่าศพที่พบคือนายบิลลี่ 100% ต้องไปถามสอบถามความชัดเจนจากแพทย์ที่ทำการตรวจวิเคราะห์ แต่แพทย์ยืนยันว่าหากชิ้นส่วนที่พบนี้ ไม่อยู่ในกะโหลกศีรษะ แสดงว่าบุคคลนั้นเสียชีวิตแล้ว
ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยังไม่ได้ดำเนินการ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน โดยยืนยันว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย
ยอมรับคดีนี้ การรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเวลาผ่านมา 5 ปี แต่ตนและคณะทำงาน ติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ต้นยืนยันจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้