เปิดกล้องวงจรปิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารแรงงานต่างด้าว ประวานงาชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย สาหัส 4 ราย
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รุดไปที่จุดเกิดเหตุบริเวณสี่แยกตู้ยามบ้านสระเศรษฐี ตำบลบ้านใหม่ อำเกได้ชนประสานงากับรถพ่วงบรรทุกสิบล้อบริเวณถนนสี่แยก จนทำให้รถทั้ง 2 คัน กระเด็นตกลงไปในคลองส่งน้ำของชลประทานที่ 13 ที่กำลังปล่อยน้ำมีความลึกเกือบ 20 เมตร ความกว้างของคันคลองกว่า 20 เมตร รถทั้ง 2 คัน จมมิดอยู่ในคลองส่งน้ำ พร้อมกับผู้ที่ติดอยู่ภายในรถจมเสียชีวิตเกือบทั้งคัน
ภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่เกิดเหตุเป็นรถตู้นำชาวลาว และชาวเวียดนาม จำนวน 14 เป็นชาวเวียดนาม 9 ราย ชาวลาว 5 และมีหญิงชาวลาวท้องแก่อีก 1 ราย ไปต่อพาสปอร์ต ที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน ในอำเภอบ้านเก่า
จากนั้นได้พาขณะทั้งหมดเดินทางกับ ออกมาเส้นทางด่านมะขามเตี้ย แล้วแล่นมาเส้นทางคันคลองเพื่อหลีกเลี่ยงถนนเส้นหลัก แต่พอถึงแยต่อมา นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประสานงานไปยังสำนักงานชลประทานที่ 13 ขอให้ช่วยปิดการส่งน้ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุติดอยู่ภายในรถตู้คันดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิของขุนรัตนาวุธ และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ส่งนักประดาน้ำลงช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในซากรถตู้ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่นัดประดาน้ำสามารถช่วยเหลือผู้เสียชีวิตออกมาได้จำนวน 10 ศพ เป็นชาย 4 หญิง 5 และ 1 ในหญิงที่เสียชีวิตตั้งครรภ์กว่า 5 เดือน รวมอยู่ด้วย และอีก 2 รายเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหายังไม่พบ และมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอีก 4 ราย รวมถึงคนขับรถบรรทุกพ่วง 1 ราย อาการสาหัส ทรายชื่อนาย จรรยา ภูมิรินทร์ คนขับรถพ่วง หมายเลขทะเบียน 7352 เพชรบุรี
จุดเกิดเหตุเป็นทางแยกซึ่งไม่มีสัญญาณไฟแดง ไฟเขียว มีเพียงไฟกระพริบเท่านั้น โดยคนขับรถตู้ ทราบชื่อนายบุญมี กล้วยประโดน เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ คนขับรถโดยสารตู้หมายเลขทะเบียน 30-1853 จันทบุรี เล่าว่า ตนเองไม่ทราบว่าจุดเกิดเหตุเขาเรียกว่าอะไร เพียงแต่ได้นำผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวลาวกับชาวเวียดนาม จำนวน 14 ราย กลับมาจากด่านบ้านพุน้ำร้อน เพื่อกลับไปส่งยังกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถบรรทุกพ่วงได้แล่นจากฝั่งตู่ยามออกมาด้วยความเร็วซึ่งรถตนเองกำลังจะพ้นทางแยกไปแล้ว แต่ไม่พ้นถูกชนช่วงท้ายแล้วพากันพุ่งลงไปในคลองส่งน้ำดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตู้ยามบ้านสระเศรษฐี ซึ่งมีกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าการชนของรถทั้ง 2 คัน เป็นเช่นไร ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้ต้องรอให้แพทย์ทำการรักษาเบื้องต้น หากพ้นขีดแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนต่อไป ส่วนแรงงานทั้งหมดมีเอกสารถูกต้องทุกคน เดินทางไปต่อเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เนื่องจากเตรียมจะเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย