หลังจากทางกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยาลดความอ้วนยี่ห้องดังกล่าว มีส่วนผสมของ บิซาโคดิล หรือยาถ่าย และ ไซบูทรามีน หรือสารที่ออกฤทธิ์กดประสาทไม่ให้หิว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีรายงานว่ามีผู้ที่ทานยาลดความอ้วนยี่ห้อลีน แล้วเสียชีวิตถึง 4ราย โดยรายแรกนั้น เป็นหญิงสาว อายุ 31 ปี ซึ่งพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อหาครอบครัวของหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่ง ได้พบกับ น้องยี เพื่อนคนสนิท ของหญิงสาวที่เสียชีวิต โซึ่งจากการสอบถาม น้องยี ได้ให้ข้อมูลว่า เพื่อนของตน เป็นคนที่ค่อนข้างมีน้ำมีนวล และไม่เคยมีโรคประจำตัวอะไรมาก่อน ที่ผ่านมา ก็เคยทานยาลดความอ้วนยี่ห้ออื่นมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่ง วันที่ 20 มีนาคม 2561 เพื่อนของตนได้เริ่มทานยาลดความอ้วนยี่ห้อ Lyn โดย โพสลงเฟสบุ๊คว่า ทานแล้วดี ทำให้ไม่รู้สึกหิว ช่วยให้ลดความอ้วนได้ดี จนวันที่ 26 มีนาคม 2561 เพื่อนเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็วและเหนื่อยง่าย จึงตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่แพทย์ก็ตรวจไม่พบอาการป่วยใดๆ ก่อนจะเจาะเลือด และนัดให้มาฟังผลในวันที่ 28 มีนาคม 2561 ซึ่งในระหว่างช่วงรอผลตรวจ เพื่อนๆที่ทำงานก็พยายามขอให้หยุดทานยาลดความอ้วนยี่ห้อดังกล่าว เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุของอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
วันที่ 28 มีนาคม เพื่อนของตนได้เดินทางมารับฟังผลตรวจเลือด ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน เพื่อนของตนก็เกิดอาการชักเกร็ง และช็อกหยุดหายใจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ที่เข้ามาช่วยเหลือ พยายามทำการปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้เพื่อนของตนเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งเพื่อนทานยาลดความอ้วนยี่ห้อดังกล่าวได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เท่านั้น
โดยส่วนตัว ตนเห็นอาการของเพื่อนตนแล้ว ตรงกับอาการ และผลข้างเคียงที่เกิดจากสารต้องห้ามที่ผสมอยู่ในยาลดความอ้วนชนิดนี้ ตนจึงอยากฝากเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงที่อยากจะผอม อยากจะสวยว่า หากจะเลือกรับประทานยาลดความอ้วนหรือ อาหารเสริมใดๆ ควรคิดให้รอบคอบและตรวจสอบผลข้างเคียงที่เกิดกับตัวเองหลังจากทานยา เพราะผลที่ได้รับมา อาจนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเหมือนกับครอบครัวเพื่อนของตน