เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีจากกรณีโลกโซเชียลฯ แห่แชร์คลิปที่ถ่ายจากงานแต่งงานแห่งหนึ่งที่ จ.ราชบุรี เจ้าสาวออกมาพูดบนเวที ขอโทษแขกที่มาร่วมงานที่ต้องยกเลิกงานแต่งไป เหตุเพราะเจ้าบ่าวไม่มาร่วมงานแต่ง
ล่าสุดเจ้าบ่าวหรือ คิน (นามสมมุติ) จากเหตุการณ์ดังกล่าวออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเจ้าตัวเผยว่าได้รู้จักกับเจ้าสาวจริงผ่านทางเฟซบุ๊กมาประมาณ 2 เดือนแล้ว หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยผ่านทางเฟซบุ๊กประมาณ 1 สัปดาห์จนเกิดความสนิทสนมกัน ตนจึงชวนเจ้าสาว หรือ มะนาว ไปทานข้าวเย็นด้วยกัน
เมื่อทานข้าวเสร็จได้ชวนกันไปสถานบันเทิงจนดึกและลงเอยด้วยการมีเพศสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันในคืนนั้น แต่ยืนยันว่าตนได้ป้องกันด้วยการใส่ถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ หลังจากคืนนั้นไปตนได้ตีตัวออกห่างจากมะนาวและเลิกติดต่อกันไป
นายคินเล่าต่อว่าหลังจากเลิกคุยไปสักพัก มะนาวได้ติดต่อมาว่าท้อง แต่ตนไม่เชื่อเพราะว่าตอนมีเพศสัมพันธ์ตนได้ใส่ถุงยางอนามัย สักพักพ่อของตนได้บอกว่ามีสาวรายหนึ่งได้บอกพ่อของตนว่าท้องกับตนและให้มาสู่ขอโดยมะนาวจะรับผิดชอบเรื่องค่าสินสอดเอง ตนและครอบครัวจึงยกกันไป 7 คนเพื่อไปคุยตกลงกับทางฝั่งญาติของมะนาวหลังจากกลับมาตนเองยืนยันว่าไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น อีกทั้งตนเองได้เลิกรากับมะนาวไปแล้ว แต่ที่จำเป็นต้องแต่งงานเพราะว่ามะนาวบอกว่าท้องกับตน
หลังจากนั้นมะนาวให้ตนไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ตนก็ยอมไป หลังจากนั้นได้มีการตกลงกันว่าจะยอมแต่งงานด้วย แต่แต่งเสร็จต้องเลิกกัน จนกระทั้งก่อนถึงวันงานมะนาวให้ตนเองนำสินสอดมา 1 แสนบาท แต่ตนไม่มีจึงเกิดความเครียดและหลบหนีไปในที่สุด
ทั้งนี้คินยังกล่าวอีกว่าอยากให้สังคมเข้าใจตนเองบ้าง เพราะตนไม่ได้รักมะนาวเลย และได้เลิกกันไปแล้ว แต่ที่ยอมตกลงว่าจะแต่งด้วยเพราะมะนาวมาบอกว่าท้องกับตน ตนจึงต้องรับผิดชอบ แต่สุดท้ายกลับถูกบีบให้หาเงิน 1 แสนบาท ซึ่งตนไม่มีจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะเดียวกันพ่อของคิน ได้ออกมากล่าวขอโทษฝ่ายเจ้าสาว และขอความเห็นใจจากสังคม โดยยืนยันว่าวันงานตนเองได้เตรียม ต้นกล้วย ต้นอ้อย ผ้ารับไหว้ ซองผ่านประตู 40 ซอง และเงินสดอีกจำนวน 60,000 บาท ตามที่ตกลงไว้แล้ว แต่ก่อนถึงวันงานฝ่ายเจ้าสาวที่บอกว่าจะรับผิดชอบค่าสินสอดเองกลับเปลี่ยนใจมาว่าให้หาเงินมาเอง 1 แสนบาท ก่อนที่ตนเองได้ขอลดเหลือ 60,000 ในภายหลัง แต่ไม่ได้แจ้งให้ลูกชายทราบเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงคุยกันแล้ว
จนกระทั่งในช่วงค่ำลูกชายของตนเองได้หายไป ตนก็ได้ออกตามหาตั้งแต่ 5 ทุ่ม โทรไปไม่รับสายจนตี 3 ก็โทรไม่ติด ทั้งนี้ตนก็ได้ให้ญาติติดต่อไปฝ่ายเจ้าสาวเพื่อแจ้งให้ทราบว่าลูกชายของตนหายไป แต่ยืนยันว่าจะยกขันหมากไปขอ แต่ทางฝ่ายเจ้าสาวได้ทำการปฏิเสธตนก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไรจึงเดินทางไป สภ.เมืองราชบุรีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ถึงอย่างไรตนอยากขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวแทนลูกชายและครอบครัว หากทางฝ่ายเจ้าสาวจะดำเนินคดีอย่างไรคงต้องมีการพูดคุยอีกครั้ง และทางครอบครัวของตนยินดีที่จะเข้าเจรจา
ขอบคุณภาพจาก : Manow Jutathip Nimnual