เพื่อนโชว์เฟอร์รถทัวร์มรณะ 18 ศพ เข้าให้ปากคำ ยันไม่ทราบเพื่อนเสพยาก่อนขับรถ ขณะที่ตำรวจกันเป็นพยาน
ความคืบหน้าจากกรณีรถของบริษัทกันเองทัวร์เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนชนแผงสินค้าต้นไม้ริมทางและพลิกคว่ำ เหตุเกิดบริเวณ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย
ล่าสุดวันนี้ นายสุริยนต์ นาคปัญญา อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยและเป็นเพื่อนกับนายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถทัวร์ที่ถูกแจ้งข้อหาไปก่อนหน้านี้ ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยนายสุริยนต์ นาคปัญญา กล่าวว่า ตนและนายกฤษณะ รู้จักกันมานานแล้ว แต่ไม่สนิทกันมาก โดยหากได้รับการติดไปขับรถนายกฤษณะก็จะนำตนไปเป็นผู้ช่วยคนขับเป็นประจำ
ซึ่งแต่ละครั้งตนก็มีการขับรถช่วยบ้าง แต่ขับระยะไม่ไกล เพราะอายุมาก อีกทั้งสายตาไม่ค่อยดี ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุตนและนายกฤษณะ ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากเจ้าของกิจการกันเองทัวร์
เพื่อให้ไปขับรถทัวร์เช่าเหมาเที่ยวนำคณะที่เกิดอุบัติเหตุไปยังจันทบุรีรวม 3 วัน ซึ่งตนในฐานะผู้ช่วย จะได้ค่าแรงวันละ 500 บาท ส่วนนายกฤษณะคนขับหลักจะได้วันละ 600 บาท
โดยก่อนเดินทางได้ไปรับคณะนักท่องเที่ยวยังบ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งครั้งแรกนั้นมีตนเป็นคนขับไปตามเส้นทาง จ.ร้อยเอ็ด และพอถึงปั้มน้ำมันในตัว อ.วาปีปทุม จ.ร้อยเอ็ดก็เปลี่ยนให้นายนายกฤษณะเป็นคนขับต่อไปจนถึง จ.จันทบุรี และขับพาคณะเที่ยวตลอดในช่วง 3 วัน จนพอขากลับตนได้ขับจาก จ.ระยอง มาถึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ก็เปลี่ยนให้นายกฤษณะขับตามเดิม กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนนั่งอยู่บริเวณหน้าประตูห้องน้ำด้านล่างได้ยินเสียงผู้โดยสารกรีดร้อง และตะโกนบอกว่ารถเบรกแตก จากนั้นรถก็ชนกับแผงกั้นข้ามเกาะพลิกคว่ำแล้ว
นายสุริยนต์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุรถคว่ำตนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามหาช่องทางออกมาจากรถแล้วมองเห็นรถช่วงชั้นสองขาดออกเป็นสองท่อน มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บและน่าจะเสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยความตกใจจึงหนีออกมา แล้วไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนๆที่เป็นคนขับรถสิบล้อตะเวนส่งของ เพราะกลัวความผิด และกลัวจะถูกดำเนินคดีด้วย
กระทั่งทราบข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้มีจำนวนมาก และตนไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการขับรถ จึงประสานเข้ามาเพื่อขอให้ปากคำกับตำรวจ
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารเสพติดในตัวของนายกฤษณะ และสารภาพว่าเสพยาบ้าก่อนขับรถนั้นตนไม่ทราบและไม่รู้มาก่อนว่านายกฤษณะเสพยา ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ขับรถปกติดีและรถก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าจะชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะระบบเบรกเพราะยังใช้งานได้ดีอยู่ในขณะที่ตนขับ
ด้านร.ต.อ.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การสอบปากคำนายสุริยนต์ครั้งนี้ ได้รับการประสานงานจากสภ.อุดมทรัพย์ ให้ทำการสอบปากคำในฐานะพยาน
เนื่องจากตำรวจกันตัวเป็นพยาน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกตามนโยบายผู้บังคับบัญชา โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จก็จะส่งไปยังสภ.อุดมทรัพย์เพื่อประกอบสำนวนต่อไป