เร่งช่วยเด็กหญิง3ขวบถูกทำร้าย พบตะปูอยู่ในท้อง (มีคลิป)

เร่งช่วยเด็กหญิง 3 ขวบ หลังพบบาดแผลเต็มตัว ตะลึงแพทย์เอกซเรย์พบวัตถุคล้ายตะปูอยู่ในท้อง ขณะที่ลุงยืนยันไม่มีใครทำร้าย

ที่โรงพยาบาลแสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุเด็กหญิงวัย 3 ขวบ มีบาดแผลคล้ายถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยจากการตรวจสอบพบเด็กหญิงอายุ 3 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในหอผู้ป่วยหญิง

ซึ่งจากการสังเกตบริเวณร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำและมีรอยเล็บทั้งตัว บริเวณคอ แก้มมีรอยฟกช้ำ ศีรษะผมหลุดร่วงหายไปจำนวนมาก และจากการเอกเรยซ์ยังพบวัตถุคล้ายตะปูหรือน็อตอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด โดยเด็กหญิงยังมีอาการหวาดผวา กลัวคนแปลกหน้า โดยพยาบาลต้องคอยปลอบอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสวงหา ซึ่งเป็นผู้นำเด็กหญิงมารักษาตัวที่ รพ.แสวงหาพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูทราบว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาได้รับการประสานจากบ้านพักเด็กจังหวัดอ่างทองให้ช่วยติดตามหาบ้านของเด็กหญิงซึ่งอยู่ในพื้นที่ หลังญาติของเด็กหญิงนำตัวน้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีแล้ว โดยขณะที่ทางแพทย์รอการรักษา ทางญาติได้พาหลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่เห็นว่ามีอาการผิดปกติ และได้ซักข้อมูลจากญาติของเด็กหญิงจนผิดสังเกต

โดยจากการตรวจสอบพบว่าเด็กหญิง อาศัยอยู่กับลุงอายุ 43 ปี ที่บ้านพักใน ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง จึงเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู โดยเข้าไปรับมาจากลุง ก่อนพาตัวเด็กหญิงไปรักษาที่โรงพยาบาลแสวงหาเมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของลุง เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่าลุงซึ่งอาศัยอยู่กับมารดา ยังคงอยู่ภายในบ้านและพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยลุงเปิดเผยว่า
เด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นลูกของน้องชายตนซึ่งไปทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรีกับภรรยา สำหรับรอยแผลมีมาตั้งแต่ที่เอามาเลี้ยง โดยช่วงหลังได้นำเด็กหญิงไปฝากเลี้ยงอยู่กับพี่เลี้ยงชื่อ ที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งตนเองก็เป็นคนพาเด็กหญิงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย แต่เมื่อนำไปรอการรักษาที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีทางเจ้าหน้าที่คิดว่าตนเองทำร้าย จึงพาเด็กกลับมาบ้าน กระทั่งเมื่อคืนได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกับมูลนิธิมารับตัวเด็กหญิงไป

ด้านเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งหากพบว่ามีการทำร้ายหรือทารุณกรรม ก็จะสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป