อย.เร่งออกกฏหมายลูกกำหนดโรค-ตำรับยา แจงผู้ป่วยมี กัญชา ในครอบครองต้องแจ้งภายใน 90 วัน หลังกฏหมายบังคับใช้ ด้านนักวิชาการ จุฬาฯ ค้านไม่เห็นด้วยนิรโทษกรรมคนมีกัญชาในครอบครอง ชี้ผู้ป่วยได้รับการรักษาจากชมรมใต้ดินอยู่แล้ว หากพ้นช่วงนิรโทษต้องรับยาจากบุคลากรทางการแพทย์ แต่หาคนมีความรู้ได้ยาก
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงการเตรียมออกอนุบัญญัติเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ เพื่อรองรับร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. … ซึ่งจะมีประกาศในส่วนของการนิรโทษผู้ครอบครองกัญชาด้วยว่า หากผู้ใดมีกัญชาในครอบครองและมาแจ้งภายใน 90 วันตามที่กำหนด หลังกฎหมายใหญ่บังคับใช้ จะไม่ต้องรับโทษ และออกแบบให้บางกลุ่มครอบครองต่อไป เช่น ผู้ป่วย แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน หรือนักวิจัย แต่ต้องมาขออนุญาตตามกฎกระทรวงใหม่ ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากแพทย์แผนปัจจุบัน หรือแพทย์แผนไทยในการสั่งยาจากกัญชา เพื่อดูแล โดยไม่ต้องไปหาซื้อนอกระบบ เป็นการคุ้มครองประชาชน ส่วนกลุ่มที่ไม่มาแจ้งก็ต้องเอาผิดตามกฎหมายเพราะการครอบครองถือว่ามีความผิด ซึ่งผู้บังคับใช้กฎหมายคือเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นอกจากประกาศนิรโทษ 2 ฉบับ และกฎกระทรวงเรื่องการผลิต การปลูก สกัด วิจัย จำหน่าย และส่งออก แล้ว ยังมีประกาศฉบับอื่น ๆ ที่เร่งดำเนินการอีก ซึ่งมีทั้งเรื่องประกาศตำรับยาจากกัญชา ซึ่งให้กรมการแพทย์และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไปพิจารณาว่าโรคอะไร ตำรับอะไรบ้างที่จะใช้กัญชาบำบัดรักษา และดูวิธีการเขียนประกาศว่า ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทยจะอยู่ในประกาศเดียวกันหรือไม่ อีกฉบับเป็นประกาศประเภทแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประเภทไหนที่สามารถใช้ได้
นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า ส่วนประกาศอื่น ๆ เป็นลักษณะของระบบรายงาน ระบบหลังบ้านต่าง ๆ ซึ่งเคยทำกับยาเสพติดทางการแพทย์อื่น ๆ อย่างมอร์ฟีนมาแล้ว จะมีความคล้ายกัน ซึ่งการออกอนุบัญญัติเหล่านี้เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ และอาจออกแนวทางอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ ส่วนผู้ป่วยที่มาแจ้งครอบครองกัญชานั้น ขณะนี้มีกลุ่มโรคตามที่หารือกับกรมการแพทย์ คือ กลุ่มแรก มี 4 โรคชัดเจนที่สามารถใช้ได้ กลุ่มสอง คือ น่าจะมีประโยชน์ และอีกกลุ่มทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งคิดว่า 2 กลุ่มนี้ที่อาจเปิดกว้าง แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพ
ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ในเรื่องที่เกี่ยวกับกัญชาที่จะออกใหม่นั้น เป็นการปิดฝาโลงของคนป่วยที่ใช้กัญชาอยู่แล้ว จากการสกัดกันเองหรือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เวลา 90 วันที่เรียกว่านิรโทษกรรม ความหมายคือ ใครที่มีในครอบครองต้องแจ้งหมด ซึ่งของก็จะถูกทำลายหรือถูกยึด ถ้าเกินกว่า 90 วันแล้วใครมีในครอบครองจะมีความผิดทางกฎหมาย ในข้อบังคับที่ตามมาอีกเรื่อง คือ การขออนุญาตเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
“ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะตอนร่าง พ.ร.บ.ฯ คือ ต้องการร่างกฎหมายให้สามารถเข้าถึงผู้ป่วย แต่ปัญหาคือ ชาวบ้าน หรือคนป่วย ได้รับการรักษากันเองอยู่แล้วในชมรมใต้ดิน ดังนั้น หากมีนิรโทษ คนครอบครองต้องไปแสดงตัว หมายความว่า คนไปแสดงตัวจะเป็นคนป่วยในชมรมใต้ดินที่ไปรักษา ซึ่งคนป่วยจะรอดตัวไปไม่ถูกการรับโทษ แต่หลังจากพ้นนิรโทษ คนป่วยก็ต้องได้รับกัญชาจากบุคลากรที่ทางการกำหนด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องเลย ว่าต้องรักษาอย่างไร ซึ่งปัจจุบันมีคนรู้เรื่องนี้น้อยมาก และตัวผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ ทางการยังไม่มีด้วยซ้ำ ดังนั้น คนที่ให้การรักษาก็จะหมดสิทธิให้การรักษาหมด” ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว