ก่อนหน้านี้ทีมข่าวไบร์ท นิวส์ ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของธุรกิจรายหนึ่ง ร้องเรียนมาว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพที่เป็นชาวญี่ปุ่นร่วมกับคนไทยหลอกลวงให้ซื้อเครื่องจักรที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้อ้างว่า สามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นน้ำมันได้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า80ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ที่สน.ทองหล่อไว้ตั้งแต่ปี2556 แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ล่าสุด ทีมข่าวไบรท์นิวส์ พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์อีกครั้งให้เอาผิดกับตำรวจ สน.ทองหล่อที่ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหา
ทีมข่าวไบรท์ นิวส์ พาผู้เสียหายในคดีนี้ เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท เอิร์ลลี่ เบิร์ด จำกัด เข้าร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปรามหลังจากถูก นายอาโอตะ โคอิชิ ชาวญี่ปุ่น หลอกขายเครื่องจักรผลิตน้ำให้กลายเป็นน้ำมัน ในราคาเครื่องละ 40 ล้านบาท รวมค่าอุปกรณ์เสริมอีกมากมายกว่า 40 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าความเสียหาย 80 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้าเรื่องทั้งหมดถูกแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เมื่อปี 2559 แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังปล่อยตัวนายอาโอตะออกไป ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่า ตนเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และในที่สุดคนร้ายจะลอยนวล ไปทำพฤติกรรมฉ้อโกงเช่นนี้กับผู้อื่นอีก นอกจากนี้ หลังจากถูกปล่อยตัวออกมา นายอาโอตะยังแจ้งความกลับฐานแจ้งความเท็จอีกด้วย
สำหรับขบวนการนี้ มีผู้ร่วมกันฉ้อโกง 5 คน คือคนไทย 3 คน และ ชาวญี่ปุ่น 2 คน ซึ่งชาวญี่ปุ่นคือนาย อาโอตะ โคอิชิ นายทาเคชิ และ คนไทยที่เป็นผู้หญิงอีก 3 คนที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน แต่ความจริงคือ สาวคาราโอเกะย่านทองหล่อนั่นเอง
โดยได้มีการนำเข้าเครื่องผลิตน้ำมันมาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง มาไว้ที่ โรงงานของผู้เสียหาย ซึ่งนายอาโอตะ โคอิชิ อ้างว่าโรงงานต้องมีคุณสมบัติ ที่เหมาะสม ทำให้ผู้เสียหายต้องนำเครื่องจักร ย้ายไปอยู่ที่โรงงานอีกหลายแห่งของผู้เสียหายเองมากถึง 5 ครั้ง และได้มีการต่อเติมอาคารสถานที่ใหม่เพื่อที่จะรองรับเครื่องจักร และซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ทำให้มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 80 ล้านบาท ในขณะที่ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ได้เข้ามาประเมินเครื่องจักร พบว่า เป็นเพียงแค่เครื่องจักรธรรมดาที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง และโชคดีที่ยังไม่มีการเปิดใช้งาน มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ เนื่องจากวัสดุไม่ได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองปราบแนะนำให้ไปแจ้งความที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป.เนื่องจาก ผู้เสียหายต้องการที่จะร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ฐานปล่อยปละละเลยและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งยังปล่อยตัวผู้ต้องหาไป โดยไม่มีการสอบสวน และไม่ยอมออกหนังสือรับรองการกระทำความผิดของผู้ต้องหาให้ ขณะที่ผู้เสียหายจะส่งหนังสือรับรองการกระทำควาผิด ไปยังสถานทูตประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายอาโอตะชาวญี่ปุ่น ฐานฉ้อโกง ต่อไป เนื่องจากหมดศรัทธากับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยแล้ว