จากกรณีน้องเมยนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตและญาติพบว่าอวัยวะภายในหายไปหลายชิ้นส่วนทั้ง หัวใจ สมอง กระเพาะอาหาร จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และถูกตั้งคถำถามอย่างมากในสังคม
ว่า แพทย์สามารถนำอวัยวะออกมาชันสูตรโดยไม่ต้องแจ้งญาติได้หรือไม่ และเมื่อชันสูตรเสร็จแล้วเหตุใดไม่ใส่อวัยวะคืนกลับร่าง เพราะอวัยวะที่หายคือกุญแจสำคัญที่จะบ่งบอกสาเหตุการชีวิตของน้องเมย หาคำตอบพร้อมกันในรายงานของคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด
https://youtu.be/SYF6n8IIPk4
คือคำแถลงยืนยันของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ว่า แพทย์สามารถนำอวัยวะของศพนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ออกมาตรวจสอบได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งญาติ หลังจากญาติได้ออกมาเรียกร้อง เพราะพบว่าอวัยะหลายส่วนของน้องเมยหายไป
ประเด็นคำถามที่เกิดขึ้นในสังคมคือ การนำชิ้นส่วนอวัยวะของศพนายภคพงศ์ ออกมาชันสูตร โดยไม่แจ้งญาตินั้นเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ ทีมข่าวจึงตรวจสอบข้อกฏหมายในการชันสูตรพลิกศพ พบว่า การนำอวัยวะ
ของศพไปชันสูตรโดนไม่แจ้งญาติสามารถทำได้ในกรณีที่ตายผิดธรรมชาติ แต่หลังจากตรวจสอบแล้วอวัยวะทุกส่วนที่นำออกไปจะต้องนำกลับมาคืนสู่ร่างเดิม และแพทย์ต้องเขียนรายงานผลการชันสูตร เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต
การชันสูตรศพในประเทศไทยหลักๆจะมีอยู่ 3 แห่ง คือรพ.พระมงกุฎเกล้า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวช รพ.ตำรวจ ซึ่งจากการสอบข้อมูลพบว่าการชันสูตรศพจะเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน แต่ที่ต่างกันคือการใช้ดุลยพินิจของแพทย์ จึงเป็นการอยากมากที่จะชี้ หรือบอกว่าการกระทำนั้นผิดหรือถูก
ทีมข่าวได้โทรศัพย์สอบถามนายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ พ่อ ของนายถคพงศ์ หรือน้องเมย ว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังจากทราบข่าว พ่อของน้องเยน ตอบแค่เพียงว่า ยังไม่อยากรับรู้เรื่องอะไร และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปรับชิ้นส่วนที่เหลือของลูกเพื่อส่งชันสูตรเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามประเด็นการเสียชีวิตของน้องเมยจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเสียชีวิตจากอะไร ซึ่งต้องรอการชันสูตรครั้งที่ 2 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ว่าการเสียชีวิตของน้องเมยในครั้งนี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากสาเหตุใด
รัตนกรณ์ โต๊ะหมัด รายงาน