พิธีบวงสรวง ราชรถปืนใหญ่ ราชรถน้อย และพระมหาพิชัยรวชรถ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หลังการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จเพื่อการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรทศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามโบราณราชประเพณีและเฉลิมพระเกียรติอย่างสูงสุด โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวง
สำหรับการบวงสรวงครั้งนี้ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิ เป็นผู้ทำพิธี เพื่ออัญเชิญเทพยดา ดวงวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราช และครูอาจารย์ที่ประสิทธิ์วิทยาการทุกสาขา เนื่องจากราชรถ และพระยานมาศเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ และพระราชทานเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์สืบทอดกันมา
ทั้งนี้กรมศิลปากร และกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายให้จัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ และพระยานมาศ สำหรับพระราชพิธิถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยกรมศิลปากรได้รับความร่วมมือจาก กรมสรรพวุธทหารบก กรมการขนส่งทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ ตลอดจนจิตอาสาหลายร้อยคน ช่วยกันบูรณซ่อมแซ่มในครั้งนี้ เช่น พระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย พระยานมาศสามบำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน และเกรินบันไดนาค รวมถึงจัดสร้างพระราเชนทรยานน้อย และราชรถปืนใหญ่ จนเสร็จสมบูรณ์
โดยวันนี้ มีการซ้อมการฉุดชักราชรถ ราชยาน เครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับริ้วขบวนที่ 2 เพื่ออัญเชิญพระบรมศพ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ออกจากพระบรมมหาราชวัง นั้น ต้องใช้บุคลาจำนวน 222 คน ที่ถูกคัดเลือกมาแล้วอย่างดี เพื่อฉุดชักทั้งขบวน ซึ่งถือเป็นความภูมิใจอย่างมาก ที่พวกเขาได้ปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้กับพ่อของแผ่นดินเป็นครั้งสุดท้าย
พระมหาพิชัยราชรถ เป็นราชรถเชิญพระบรมโกศ พระบรมศพ ราชรถขบวนใหญ่ ใช้ในริ้วขบวนแห่ที่ 2 ซึ่งจะอัญเชิญพระโกศ จากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปสู่มณฑลพระราพิธีท้องสนามหลวง โดยใช้เกรินบันไดนาคเลื่อนเชิญพระโกศพระบรมศพจากบุษกพระมหาพิชัยราชรถมาประดิษฐานที่พระยานมาศสามลำราน หรือราชรถปืนใหญ่ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง โดยพระราชประเพณีนี้ สืบทอดมาตั้งแต่งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมัยรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 มาเป็นต้น