1 เมษายน ที่คนไทยทุกคนควรภูมิใจ

ในวันนี้ (วันที่ 2 เมษายน  2564) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความในเพจ Facebook ของตนเอง “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ถึง ความสำคัญของวันที่ 1 เมษายน ว่า
ก่อนจะผ่านพ้นวันนี้ไป​ ผมขอกล่าวถึงความสำคัญของวันนี้แบบเล่าสู่กันฟังนะครับ

วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ตามธรรมเนียมของชาติตะวันตก จะเรียกว่า เมษาหน้าโง่ หรือวันโกหก ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศ
โดยผู้คนจะเล่นมุกตลกและสร้างเรื่องหลอกลวงต่อกัน แล้วจะออกมาเฉลยในวันต่อมา

แต่สำหรับประเทศไทย คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ นั่นคือ การเลิกทาส ซึ่งเป็น พระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นการยกเลิกระบบที่คนชั้นสูงตั้งขึ้นเพื่อกดขี่ราษฎรให้ทำงานรับใช้หรือส่งทรัพย์สินให้โดยไม่มีกำหนดว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ประมาณว่าไทยมีทาสเป็นจำนวนกว่าหนึ่งในสามของพลเมืองของประเทศ เพราะเหตุว่าพ่อแม่เป็นทาสแล้ว ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นทาสก็ตกเป็นทาสอีกต่อ ๆ กันเรื่อยไป ทาสนั้นจะต้องหาเงินมาไถ่ตัวเอง มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต เพราะตามกฎหมายถือว่ายังมีค่าตัวอยู่
โดยมีการกำหนดราคาค่าตัว ตามอายุ และเพศของทาส  กล่าวคือ
อายุแรกเกิด  เพศชายราคา   5 บาท  เพศหญิง ราคา 4 บาท
อายุ  7 – 8 ปี  เพศชายราคา   8 ตำลึง เพศหญิง ราคา 7 ตำลึง
อายุ 10 ปี      เพศชายราคา   4 บาท   เพศหญิง ราคา 3 บาท

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศ “พระราชบัญญัติพิกัดเกษียณลูกทาสลูกไทย” เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 แก้พิกัดค่าตัวทาสใหม่ โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั่งหมดค่าตัวเมื่ออายุได้ 20 ปี เมื่ออายุได้ 21 ปี ผู้นั้นก็จะเป็นอิสระ โดยมีผลกับทาสที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2411 เป็นต้นมา และห้ามมิให้มีการซื้อขายบุคคลที่มีอายุมากกว่า 20 ปีเป็นทาสอีก

เมื่อถึง พ.ศ. 2448 ก็ทรงออก “พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124” ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไทเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2448 ส่วนทาสประเภทอื่นที่มิใช่ทาสในเรือนเบี้ย ทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ 4 บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2448 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติป้องกันมิให้คนที่เป็นไทแล้วกลับไปเป็นทาสอีก และเมื่อทาสจะเปลี่ยนเจ้าเงินใหม่ ห้ามมิให้ขึ้นค่าตัว
  “นี่คือประวัติศาสตร์ชาติไทยที่คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจ”

ประเทศไทยถือว่าโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกๆพระองค์ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรม โดยประชาชนในประเทศเปรียบเสมือนลูกของพระองค์ท่าน

ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นว่าความแตกต่าง เมื่อปีพ.ศ 2404
แผ่นดินสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศเสรีนิยม เกิดความแตกแยกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายมีเรื่องของการซื้อขายทาส จึงทำให้  ไฟสงครามลุกโชนกลางเมือง คนร่วมชาติเดียวกันจับอาวุธเข้าประหัตประหารกันเพราะแนวคิดที่แตกต่างกัน การศึกตอนนั้นยืดเยื้อไม่มีทีท่าจะจบสิ้น จนเกิดการปะทะครั้งใหญ่ในอีก 2 ปีต่อมา เมืองชนบทที่เคยเงียบสงบ สวยงามกลับกลายเป็นสมรภูมิการรบนองเลือดตลอด 3 วัน  ซึ่งกลายเป็นจุดพลิกผันที่ส่งผลต่อฉากสุดท้ายของสงครามกลางเมืองที่คนในชาติเข่นฆ่ากันเอง จะเห็นได้ว่า มีความแตกต่างจากประเทศไทยเพราะประเทศไทยนั้นมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผมจึงปรารถนาที่จะเห็นคนไทยทุกคนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าทุกๆพระองค์ที่ทรงเสียสละทำนุบำรุงประเทศ ทำให้ไทยยังคงเป็นไทยตราบเท่าทุกวันนี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า