“กกต.” รอประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ยัน 45 วันประกาศผลได้ หากหย่อนบัตร 24 มี.ค. ย้ำหาเสียงผ่านทีวี-วิทยุ กกต.กำหนดเท่านั้น
16 ม.ค.62-ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ กกต.ยังรอการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร ส่วนรัฐบาลยังไม่ได้ประสานมา มีเพียงการประสานถึงงานพระราชพิธีว่าจะมีในวันใด แต่ในส่วนของ กกต.ได้พูดคุยกันว่าจะจัดการเลือกตั้งและประกาศผลภายใน 150 วัน นับแต่ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ใช้บังคับ ภายในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562 ระยะเวลาการประกาศผลก่อนวันที่ 9 พ.ค.หรือรวมแล้ว 45 วันหรือไม่ ก็น่าเชื่อว่า กกต.สามารถทำได้ ถึงแม้ว่าระยะเวลาดังกล่าวค่อนข้างจะบีบ และกฎหมายยังกำหนดให้ กกต.ต้องรับฟังความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดรายการ “กู๊ดมันเดย์” ซึ่งอาจมีเนื้อหาช่วยหาเสียงให้กับบางพรรคสามารถทำได้หรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ หลีกเลี่ยงที่จะตอบ โดยอ้างว่า ถ้าเป็นเรื่องของการกระทำว่าอย่างนี้ผิดแล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตีความ จะมาตอบในขณะนี้คงไม่ได้ ยกเว้นเป็นคดีขึ้นมาเราก็จะไปตรวจสอบ ส่วนการติดป้ายประกาศหาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครสามารถจัดทำป้ายขนาด เอ 3 จำนวนไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง หรือประมาณ 270 ป้ายต่อเขตเลือกตั้ง ขณะที่ป้ายขนาด 130 X 245 ซม.ติดได้ไม่เกิน 2 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง หรือ 540 แผ่นต่อเขตเลือกตั้ง ซึ่งป้ายทั้ง 2 แบบดังกล่าว จะติดได้ในสถานที่ที่ ผอ.กกต.เขต กำหนด
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการหาเสียงทางวิทยุ และโทรทัศน์ ผู้สมัครจะดำเนินการเองไม่ได้ เพราะ กกต.จะจัดสรรเวลาออกอากาศให้พรรคละไม่เกิน 10 นาที นอกจากนี้ กฎหมายยังเพิ่มเติมการดีเบต นโยบาย หรือประชันนโยบายของพรรคการเมือง โดยจัดเป็นกลุ่มพรรคการเมือง 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นพรรคที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 300 – 350 เขต กลุ่มที่ 2 ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 200 – 299 เขต และกลุ่มที่ 3 ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 199 เขตลงมา ซึ่งในส่วนของสถาบันการศึกษาหรือองค์กรวิชาชีพต่างๆ ก็สามารถจัดดีเบตได้ แต่ต้องยึดหลักความเท่าเทียมกันดังกล่าว
“ขณะที่กรณีบางพรรคการเมืองมีเครือข่ายเป็นเจ้าของสื่อโทรทัศน์ จะให้น้ำหนักในการนำเสนอข่าวให้กับบางพรรค หากมีการร้องเข้ามา กกต.ต้องไปตรวจสอบ สำหรับเจ้าของสื่อกฎหมายเขียนห้ามไว้แล้ว การนำเสนอข่าวต้องเท่าเทียมกันทุกพรรคการเมือง ทำข่าวได้ หาเสียงไม่ได้”พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว