รายงานพิเศษ : 7 มี.ค. ชี้ชะตา “ไทยรักษาชาติ” บนปากเหวยุบพรรค ?! 

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติคำวินิจฉัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในข้อกล่าวหาเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ในวันที่ 7 มี.ค.เวลา 15.00 น. จะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองก่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.

จาก 8 ประเด็นที่ “ไทยรักษาชาติ” ยื่นต่อสู้ในสำนวนการยุบพรรคนั้น ได้เน้นไปที่ความ “บริสุทธิ์ใจ” โดยเฉพาะประเด็นพรรคได้ทำตามประสงค์และความยินยอม ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ประกาศพระบรมราชโองการ พ.ศ.2515 และข้อบังคับพรรค ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี ส่วนคำว่า “ปฏิปักษ์” ไทยรักษาชาติ “โต้แย้ง” ว่า เป็นการถูกมัดตามความหมายไปในทางฝ่ายตรงกันข้าม ข้าศึก ศัตรู แต่การกระทำของไทยรักษาชาติ ยืนยันเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นความประสงค์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ที่อาสาเข้ามาทำงานให้กับประเทศชาติ และยินยอมให้ผู้ถูกร้องเสนอชื่อ มิใช่เป็นการ “แอบอ้าง” โดยพละการ 

ถือเป็นประเด็นหลักที่ “ไทยรักษาชาติ” เชื่อว่าจะสลัดให้พ้นคำครหาจากการถูกยุบพรรคได้ แต่หากวันที่ 7 มี.ค. มีผลวินิจฉัยออกมาตรงกันข้าม ไม่ใช่แค่ผู้เล่นในกระดานการเมืองในมือคนแดนไกลจะหายไป 1 กำลังรบใหญ่ แต่หมายถึงกลยุทธ์รวบรวมเสียงพรรคเครือข่ายเพื่อตั้งรัฐบาลภายหลังวันที่ 24 มี.ค.จะหายไปก้อนใหญ่ด้วย

จากตัวเลข ส.ส.บัญชีรายชื่อของไทยรักษาชาติที่ส่งลงสมัครอยู่ที่ 108 คน ส่วนผู้สมัครส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งอยู่ที่ 176 เขต ส่งไปถึงสถานการณ์ “ล่อแหลม” ที่ทั้งพรรคไทยรักษาชาติยังยืนอยู่บนปากเหวได้ทุกเมื่อ ทำให้ที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ผู้สมัครส.ส.ของไทยรักษาชาติหลายราย เล่นบท “ตีกรรเชียง” มายื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอคุ้มครองสิทธิ์ตัวเอง หากในวันที่ 7 มี.ค.มีคำวินิจฉัยมีผลออกมาไม่เป็นทางบวกให้ไทยรักษาชาติ หมายความว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะไม่ได้รับผิดทางใดทางหนึ่งไปด้วย แต่ที่แน่ชัดสำหรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คนซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดเครือข่ายตระกูลชินวัตร จะต้องปิดประตูทางการเมืองทันที

เพราะหลายเขตที่พรรคไทยรักษาชาติ ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส่วนใหญ่เป็นเขตที่ฝั่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งด้วยเช่นกัน หากผู้สมัครส.ส.จากไทยรักษาชาติหายไปจากพื้นที่เขตเลือกตั้ง ในพื้นที่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติไม่ได้ส่งผู้สมัคร เป็นไปได้ที่คะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ที่ถูกนำสะสมให้ไทยรักษาชาติ และฝั่งพรรคเครือข่ายจะหายไปด้วย 

อีกประเด็นในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า คะแนนเสียงของประชาชนที่กาในช่อง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” ให้พรรคการไหนหรือ “โหวตโน” จะมีความหมายสำคัญ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 92 หากในเขตเลือกตั้งนั้นมีคะแนน “โหวตโน” มากกว่าคะแนนเสียงจากผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 ในเขตนั้น การเลือกตั้งจะกลายเป็น “โมฆะ” โดย กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนที่ลงสมัครในเขตนั้นๆ จะไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งในเขตนั้นได้อีกครั้ง 

หากในหลายพื้นที่เกิดปรากฎการณ์ “โหวตโน” มากกว่า 25 เขตเลือกตั้ง อาจส่งผลทำให้ตัวเลข ส.ส.ที่ต้องสามารถเปิดสภาในครั้งแรก อาจมีไม่ถึง 475 คนจากทั้งหมด 500 คน ก็ทำให้ไม่สามารถเปิดสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ จนกว่าการเลือกตั้งในแต่พื้นที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จผ่านเพดานการได้ส.ส.ในสภาเกิน 475 คนขึ้นไป 

จึงเป็นอีกประเด็นที่จะเชื่อว่า หากผู้สมัครส.ส.ของไทยรักษาชาติหายไป “ฐานเสียง” ที่เหนียวแน่นของไทยรักษาชาติจะไม่สวิงย้ายไปเลือกพรรคการเมืองอื่น แต่จะมาลงในคะแนนในช่อง “โหวตโน” ได้เช่นกัน และเมื่อนั้นจากคะแนนดิบเลือกตั้งแต่ละเขตยังไม่สามารถสรุปได้ ทำให้ตัวเลขคะแนนเสียงที่จะนำไปคำนวนเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อาจจะยังทำไม่ได้จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ จะได้ ส.ส.เกิน 95 เปอร์เซ็นต์ใน 350 เขต ทำให้สถานการณ์นี้จะเป็นอีกเงื่อนไขหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ยังไม่นับการทยอยเก็บหลักฐานหาเสียงไม่ถูกกฎหมาย ที่จะนำไปถูกร้องเรียนกับ กกต.หลังเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อได้ว่าจะมีสำนวนคำร้องมากเป็นประวัติการณ์

ยิ่งภาพการแข่งขันเริ่มดุเดือดในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ทั้งฝั่งสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ หรือฝั่งที่ประกาศตัวยืนอยู่ปีกประชาธิปไตย ทุกอย่างจะบีบให้สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้ง ถูกเร้าให้เกิดความขัดแย้งมากกว่าเดิม การจุดประเด็น “เลือกข้าง” จะถูกนำมาใช้สาดโคลนทางการเมืองมากกว่าการหาเสียงด้วยนโยบาย โดยเฉพาะจะได้เห็นฝ่าย “พลังเงียบ” เน้นไปที่กลุ่ม “เฟิร์สโหวต” ที่มีกว่า 7.3 ล้านคน จะออกมาแสดงจุดยืนต่อการเลือกตั้ง 24 มี.ค.

แต่วันที่ 7 มี.ค. จะเป็นปัจจัยแรกที่ส่งไปถึงสถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะเป็นสถานการณ์ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51,419,975 คน จะกำหนดทิศทางการเมืองตลอดปี 2562 โดยมีอนาคตของประเทศเป็นเดิมพันทั้งสิ้น

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง

พ่อค้าร้านข้าวประกาศ หยุดขายขาหมู หลังเพื่อนบ้านร้องเรียน สับหมูรบกวนเสียงดัง ล่าสุดเทศบาลนัด 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้

สพฐ. แจงปม ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ที่ร้อยเอ็ด ชี้! ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยผลสรุป ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ พบผิดวินัยไม่ร้ายแรง เตรียมลงดาบทางวินัย แต่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ณเดชน์ ใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง พร้อมขอโทษ ญาญ่า

ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงกับใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง บานปลายสร้างความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ญาญ่า อุรัสยา

แชร์สนั่น! “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่เด็กสมบูรณ์ พกง่าย ละลายเร็ว

ชาวเน็ตอึ้ง! เด็กสมบูรณ์เปิดตัว “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่ ของซีอิ๊วขาว มาพร้อมกับสโลแกน พกสะดวก ละลายไวใน 5 วินาที

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ยินดี สมรสเท่าเทียมผ่าน เผยเป็นวันที่รอคอยมานาน

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ข้อความร่วมยินดี เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านครม. พร้อมเผยเป็นวันที่รอคอยมานานมาก โลกเปิดกว้าง ไม่จำกัดเพศ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า