สัญญาน้ำมันดิบเบรนด์พุ่งทำสถิติใหม่ 70 ดอลล์ หลังสถานการณ์ทางการเมืองในลิเบียตึงเครียดมากขึ้น ขณะที่อุปทานน้ำมันโลกยังคงตึงตัว
เมื่อคืนวานนี้ (4 เม.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 62.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.36 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.6% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 69.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.09 เหรียญสหรัฐ
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. ขณะที่การผลิตน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 12.2 ล้านบาร์เรล/วันในรอบสัปดาห์เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 70.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในการซื้อขายระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.2561 ก่อนปิดลดลงใกล้ระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ตึงเครียดทางทหารในลิเบีย ที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ
ทั้งนี้ ลิเบียกำลังเตรียมจัดการประชุมแห่งชาติ ภายใต้การสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติ (UN) โดยมีเป้าหมายที่จะยุติวิกฤตการเมืองในประเทศ ในขณะที่พล.อ.คาลิฟา ฮัฟตาร์ ผู้บัญชาการกองทัพลิเบีย สั่งให้กองกำลังของเขาเดินขบวนไปยังกรุงตริโปลี ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาล ทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่าจะมีการปะทะกับกองทหารฝ่ายตรงข้าม
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 38% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันโลกที่อยู่ในภาวะตึงตัว และสัญญาณอุปสงค์หรือความต้องการน้ำมันที่มีเพิ่มขึ้น
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 5 เม.ย. ว่า เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นเล็กน้อย หลังแตะระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย โดยได้แรงหนุนจากภาพอุปทานน้ำมันดิบโลก แม้ตลาดจะยังมีความกังวลต่อกำลังการผลิตสหรัฐ และอุปสงค์น้ำมันโลก
ทั้งนี้ อุปทานน้ำมันดิบโลกยังคงมีแนวโน้มตึงตัวต่อ หลังตลาดคาดว่าสหรัฐฯ จะยุติการยกเว้นการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของ 8ประเทศ (Iran waiver) หลังเดือน พ.ค. ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านปรับลดลงได้
ขณะเดียวกัน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐล่าสุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 12.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ เยอรมันรายงานตัวเลขคำสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ทรุดลงถึงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หลังอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าอ่อนแอลง ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากความวุ่นวายของ BREXIT และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน