สภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นำแนวทางของ พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 แก้น้ำท่วม จัดหาพื้นที่แก้มลิงเพิ่ม-สร้างระบบท่อใต้ดิน
สภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์(วสท.) ออกมาแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสานของประเทศไทยในขณะนี้ โดยระบุว่า แนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างยั่งยืนด้วยการจัดหาพื้นที่ทำแก้มลิงเพิ่มพร้อมสร้างระบบท่อใต้ดินเชื่อมโยงเพื่อกักเก็บและระบายน้ำยามหน้าฝน พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีด้านการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำและฉับไว ที่สำคัญคือระบบการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อลดผลกระทบ เพราะเหตุการณ์ที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นการยืนยันชัดเจนว่า ขาดการแจ้งเตือนทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่าพายุเข้าแน่
ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า อยากถอดบทเรียนเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อจะได้มีการเตรียมการรับมือที่ดี เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เกิดครั้งแรก เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง จึงอยากเสนอการทำแก้มลิง โดยกล่าวว่า “ด้วยการทำคันดินริมสองฝั่งแม่น้ำให้สูงกว่าระดับน้ำ 2-3 ม.เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าพื้นที่ริมน้ำ ตามด้วยทำตามแนวทางที่ในหลวงร.9ที่ได้ทรงพระราชทานแนวทางไว้คือ การปรับพื้นที่แอ่ง บึง ทะเลสาบขนาดเล็ก ให้เป็นพื้นที่รองรับน้ำเมื่อฝนตกหนักหรือที่เรียกว่าแก้มลิง แต่สำหรับในพื้นที่ในเมืองที่อัดแน่นด้วยสิ่งปลูกสร้างและที่อยู่อาศัยจำกัดด้วยพื้นที่ทำแก้มลิง ก็ให้จัดทำเป็นระบบท่อใต้ดินตามพื้นที่สาธารณะที่ไม่ต้องเวนคืน อย่าง ใต้ถนน สวนสาธารณะ ฯลฯ เพื่อระบายน้ำไปยังแหล่งรับน้ำ ทั้งยังสามารถนำน้ำไปกักเก็บเพื่อไว้ไปช่วยเรื่องชลประทานในพื้นที่เกษตรที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อยามหน้าแล้งได้ด้วย ซึ่งระบบท่อใต้ดินดังกล่าวนี้ทำได้ง่าย เพราะไม่ได้ใช้พื้นที่ด้านบน และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากด้วย”
โดยทางวิศวกรรมสถานฯและสภาวิศวกรมีข้อตกลงที่จะส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรทั้งระดับสูง ระดับปฏิบัติงาน รวมทั้งระดมวิศวกรอาสา ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่คาดว่าน้ำน่าจะลดลงเกือบหมดแล้ว เพื่อตรวจดูโครงสร้างบ้านเรือนประชาชน อาคารของรัฐ และถนน สะพานฯลฯ ว่าได้รับผลกระทบแค่ไหน และควรจะปรับปรุงซ่อมแซมให้ถูกหลักวิศวกรรมอย่างไร รวมทั้งลงพื้นที่ตามบ้านประชาชนให้ความรู้และช่วยเหลือว่า โครงสร้างบ้านตรงไหนที่ไม่ควรกลับเข้าไปอยู่โดยทันที ระบบไฟฟ้าในบ้านปลอดภัยหรือไม่ ฯลฯ โดยจะพยามระดมเจ้าหน้าที่ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้ทั่วจังหวัดอุบลฯ