นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. เปิดเผยว่า ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลนั้น ขณะนี้ไม่ได้สะท้อนศักยภาพของลูกหนี้ เพราะธอส.มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ถึง 10 มาตรการ ซึ่งมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการ 511,110 บัญชี วงเงิน 430,439 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันหลายมาตรการครบกำหนดระยะเวลาแล้ว โดยเฉพาะมาตรการที่ 5 คือ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน สำหรับวงเงินกู้ที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ครบระยะเวลาตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา วงเงิน 180,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามลูกค้าในกลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่ขอเข้าร่วมมาตรการ 8.5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยถึง 31 ต.ค.นี้ จำนวน 100,000 ล้านบาท และ 2.กลุ่มที่ไม่เข้าร่วมมาตรการจำนวน 80,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีลูกค้าที่กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ 65,000 ล้านบาท ที่เหลือจ่ายชำระไม่เต็มงวดและกลายเป็นหนี้เอ็นพีแอล จำนวน 9,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.5% ของมูลหนี้ลูกค้ามาตรการที่ 5 ซึ่งตัวเลขเอ็นพีแอลนั้นต่ำกว่าที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 25% โดยธนาธนาคารจะดำเนินติดต่อลูกค้าเป็นรายบุคคลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้หรือปรับระยะสัญญาเงินกู้ลูกค้ากลุ่มนี้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ส่วนมาตรการที่ 8 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาเดือนต.ค.นี้ สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างมาตรการช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19 และโครงการธอส.ช่วยคนไทยร่วมสร้างชาติ วงเงินประมาณ 200,000 ล้านบาท ธอส.กำลังประเมินว่าลูกค้าจะมีความสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ประมาณเท่าไหร่ และเตรียมขยายมาตรการที่ 8 ออกไปอีก 3 เดือน ถึงเดือนม.ค.64
“จากสถานการณ์หนี้เสียที่เกิดขึ้น ทำให้ธนาคารตั้งสำรองหนี้เผื่อสูญเพื่อรองรับการไหลของหนี้เอ็นพีแอลไว้ที่ 5,300 ล้านบาท โดยตั้งแต่ธนาคารออก 10 มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ได้มีการสำรองหนี้สงสัยเผื่อสูญแล้ว 3,500 ล้านบาท ขาดอีก 1,800 ล้านบาท ซึ่งธอส.คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะสำรองหนี้เผื่อสูญถึงตามเป้า
ส่วนตัวเลขการปล่อยสินเชื่อในเดือนส.ค.2563 หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 18,000 ล้านบาท ขณะที่เป้าปล่อยสินเชื่อสะสมอยู่ที่ 143,900 ล้านบาท และคาดว่าจากนี้ไปจะปล่อยสินเชื่อได้อีกประมาณเดือนละ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ที่ 215,000 ล้านบาท มากกว่าเป้าที่วางไว้ 210,000 ล้านบาทเล็กน้อย
ก่อนเกิดโควิด-19 ธอส.ประมาณการณ์รายได้อยู่ที่ 13,500 ล้านบาท ดังนั้นจึงมีการปรับเป้าไปที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ให้เหลือแค่ 8,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 9,000ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ปรับลดลงไปเล็กน้อย และรายได้จากดอกเบี้ยปีนี้จะลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้ง