คืบหน้าเหตุการณ์ รถกระบะเบียดเสียหลักชนป้าเจ็บสาหัส จังหวัดระยอง ล่าสุดคนขับกระบะที่หลบหนี ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว เผยเตรียมขายรถเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้คนเจ็บ
จากกรณี โซเชียลแห่ตามล่า คนขับกระบะรายหนึ่งที่ปรากฎในคลิบวงจรปิด ขับเบียดกระบะอีกคันหนึ่งเสียหลักชนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็ยหญิง วัย 63 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้านนายบันเทิง ผดุงกิจ อายุ 38 ปี ผู้ผู้ขับขี่ รถยนต์อีซูซุ คันหมายเลขทะเบียน บพ 6775 จันทบุรี
สีบรอน ได้กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายขนมหวานอยู่ในตลาดมาบตาพุด ในวันเกิดเหตุตนได้ขับรถกลับจากไปเยี่ยมญาติที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีเด็กๆที่เป็นลูกและหลานนั่งมาด้วยถึง4 คน ที่เป็นวัยกำลังซน และในขณะที่ถึงจุดเกิดเหตุตนได้แซงรถคันหนึ่ง และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ตนจะเข้ามาทางเลนส์ถนนด้านซ้าย พอดี โดยตนมองไม่เห็นกระจกข้างรถที่ตนขับมาว่ามีรถยนต์อีกคันอยู่ในเลนส์ซ้ายเนื่องจากเด็กที่นั่งมาด้วย บังกระจกข้างด้านซ้ายของรถ ตนจึงไม่ทันสังเกต จึงทำให้รถพุงเข้าชนรถกระบะเชฟโรเลตเข้าอย่างจัง จากนั้นรถยนต์เชฟโรเลตของ น.ส. ณัฐธันยา โพธิ์แจ่ม จึงพุ่งเข้าชน นางปราณี หอมแก่นจันทร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ตนไม่ได้ตั้งใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
นายบันเทิง ผู้ก่อเหตุ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนขับรถหลบหนีก็เป็นไปด้วยความตกใจ คิดอะไรไม่ออกจึงรีบขับรถมาส่งลูกและหลานที่ห้องเช่าในซอยมณีแดง ถนนเส้นวัดมาบตาพุด ก่อนจะเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เพื่อปรึกษาญาติพี่น้องในเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้ให้แม่ติดต่อมาทางร้อยเวรเจ้าของคดีถึงการมามอบตัวในครั้งนี้
สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านนายเดชา หอมแก่นจันทร์ อายุ 40 ปี ได้เปิดเผยถึงอาการของแม่ว่า เบื้องต้น ยังไม่ฟื้นนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา อยู่ที่ ห้อง ไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ฯ โดยหมอได้นัดใส่เหล็กดามไหล่ด้านขวา ในวันที่ 17 เมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 45,000 บาท ขณะนี้ได้รวบรวมเงินจากญาติพี่น้องมาเพื่อ ทำการรักษาแม่ก่อนในเบื้องต้น และใน วันที่ 20 เมษายน หมอได้นัดผ่าตัดขาด้านขวา บริเวณช่วงหัวเข่าลงมาจากอาการกระดูกหักถึง 3 ท่อน โดยหมอยังไม่สามารถแจ้งได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร ต้องรอการพิสูจน์จากแพทย์วิเคราะห์กระดูกที่หักอย่างละเอียด ส่วนอาการโดยรวมแพทย์ยังยืนยันไม่ได้ว่า แม่จะฟื้นเมื่อไร ซึ่งปัจจุบันแม่ยังไม่ฟื้น ตนทำได้เพียงรอความหวังให้แม่มีอาการดีขึ้น ในส่วนของคดี เบื้องต้นที่ได้พบกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ผู้ก่อเหตุยืนยันว่าจะขายรถยนต์อีซูซุเพื่อนำเงินมาช่วยในการรักษาในส่วนนี้ ก็พอใจในส่วนหนึ่ง ซึ่งหากคู่กรณี และผู้ก่อเหตุ ทุกฝ่าย มีจิตใจ และความเมตตาในการเยียวยาเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ต้องขอขอบคุณ
ด้าน ร.ต.อ.ไมตรี พากุล ร้อยเวร เจ้าของคดี ได้เผยว่าวันนี้ได้ให้ทั้ง3 ฝ่ายได้พูดคุยเจรจากัน รวมถึงการเยี่ยวยาผู้บาดเจ็บ โดยนายบันเทิง ฯ ผู้ก่อเหตุยืนยันว่าจะหาเงินมาเยียวยาป้าที่ได้รับบาดเจ็บ โดยจะยอมขายรถยนต์คันเกิดเหตุที่ตนขับมาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งที่รถยนต์คันนี้ถือเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในการทำมาหากินสำหรับครอบครัวที่ไว้คอยส่งขนมหวานมาค้าขายที่ตลาด แต่ด้วยความจำเป็นเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในการรักษาพยาบาลในเหตุดังกล่าว ในส่วนของคดีเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย และทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลบหนี ดำเนินคดีตามกฏหมายในส่วนของการเยียวยาผู้เสียหายต้องไปฟ้องคดีแพ่งต่อไป ส่วนผู้ก่อเหตุมีเจตนาที่จะเยียวยา และไม่คิดหลบหนี จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราวไป