จากกรณีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำธัญบุรี ซึ่งทางพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตไม่ปักใจเชื่อว่าถูกเพื่อนนักโทษทำร้าย คาดว่าลูกถูกผู้คุมซ้อมตาย ล่าสุด ยื่นเรื่องร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมขอรื้อสำนวน หลังทุกหน่วยงานลงความเห็นเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยว
นายบุญสืบ เข็มนาค และนางอัมพร บัวเผื่อน พ่อและแม่ของ นายอภิชาติ เข็มนาค ผู้ต้องขังคดียาเสพติด ที่เสียชีวิตในเรือนจำอำเภอธัญบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยระบุว่า ลูกชายเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2558 ระหว่างรอส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำอยุธยา เนื่องจาก นายอภิชาติ ต้องโทษ 25 ปีในคดีค้ายาเสพติดแต่รับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือโทษจำคุก 15 ปี และถูกจำคุกระหว่างการพิจารณาคดีที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี 8 เดือน ซึ่งในวันรุ่งขึ้นจะถูกนำตัวไปเรือนจำจังหวัดอยุธยาแต่เสียชีวิตก่อน โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์แจ้งว่าลูกชายสำลักอาหารเสียชีวิต ขณะที่ผลการชันสูตรแพทย์ลงความเห็นว่าหัวใจล้มเหลว และพบร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย เกิดจากของแข็งกระแทก ซึ่งสภาพรอยฟกช้ำที่ตัวศพทำให้พ่อและแม่ของนายอภิชาติ ไม่เชื่อว่าลูกจะถูกทำร้ายจากผู้ต้องขังเพียงคนเดียว เนื่องจากในวันเกิดเหตุลูกชายถูกลงโทษให้ขังซอย ซึ่งในห้องขังซอยไม่น่าจะมีของแข็งที่ใช้เป็นอาวุธได้ รวมถึงยังปักใจเชื่อว่าร่องรอยฟกช้ำเกิดจากกระบองและรองเท้าบู๊ทของผู้คุม
นายบุญสืบ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เข้าร้องเรียนไปแล้วเกือบทุกหน่วยงานทั้งตำรวจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ , กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) , แพทยสภา , และกระทรวงยุติธรรม ในสมัยที่ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่ผลสอบที่ออกมาไม่สามารถดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ได้ โดย ป.ป.ช.จังหวัดปทุมธานี ระบุว่า ผบ.เรือนจำไม่มีความผิด และไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ตนจึงมาร้องขอให้ พันตำรวจเอก ดุษฎี รื้อฟื้นสำนวนคดีอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า เบื้องต้นจะนำภาพจากการชันสูตรพลิกศพไปเปรียบเทียบกับคำรับสารภาพของผู้ต้องขังที่รับว่าก่อเหตุวิวาทกับผู้ตาย โดยเตะเข้าที่หน้าอกของผู้ตาย 3 ครั้ง จนทำให้เสียชีวิต เพื่อตรวจสอบว่าคำรับสารภาพกับร่องรอยบาดแผลตรงกันหรือไม่ ซึ่งนักโทษที่รับสารภาพก็ถูกศาลตัดสินให้เพิ่มโทษจำคุกอีก 6 ปี รวมทั้งจะตรวจสอบด้วยว่าผู้ตายกระทำผิดวินัย หรือฝ่าฝืนระเบียบเรือนจำอย่างไร จึงถูกลงโทษให้แยกขังซอย หลังเกิดเหตุเรือนจำได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่
ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงว่ามีการสั่งการ หรือมีผู้ร่วมทำร้ายผู้ตายหรือไม่ หรือเป็นเพียงการเข้าใจผิดไปเองของพ่อแม่ โดยคาดว่าภายใน 2 เดือน จะสามารถสรุปความเห็นในคดีนี้ได้ สำหรับนักโทษที่รับสารภาพว่าก่อเหตุวิวาทจนนายอภิชาติ เสียชีวิต จะขอให้กรมราชทัณฑ์ย้ายจากเรือนจำอำเภอธัญบุรีไปไว้เรือนจำอื่น จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ
ขณะที่นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีที่มาร้องเรียนวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมก็ได้ตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลาง และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพก็เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรือนจำ ผลออกมาตรงกันคือเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุวิวาทของนักโทษด้วยกันเอง ซึ่งนักโทษที่ก่อเหตุก็ได้ถูกดำเนินคดี ศาลลงโทษไปแล้ว ทั้งนี้เมื่อมีการมายื่นเรื่องใหม่ก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ