คุมตัว”ไอ้พู” ทำแผน เปิดวินาทีเชือดคอ ชาวบ้านไม่ต่ำ300 คน รอจองกฐิน
ความคืบหน้าการจับกุม นายพูล้า ผู้ต้องหาชาวลาว ก่อเหตุฆ่าปาดคอ ยายวัย 67 ปี และเด็กหญิงเพื่อนหลานสาว วัย 12 ปี ในท้องที่ อ.พระประแดง อย่าสยดสยอง หลังถูกจับกุมตำรวจได้นำตัวกลับมายัง สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินคดีและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากประชาชนจำนวนมากรอประชาทัณฑ์นายพู ล่าสุดมีการใช้พื้นที่ห้องประชุมใหญ่ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรสมุทรปรการ เป็นจุดทำแผนแทน
นายพู หรือ ท้าวพูล้า สัญชาติลาว ถูกตำรวจคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพและจำลองเหตุการณ์ วินาทีเชือดคอ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ และ 12 ปี ภายในบ้านพักซอยเพชรหึง 23 ซึ่งการทำแผนครั้งนี้ ตำรวจใช้ห้องประชุมใหญ่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ดำเนินการเนื่องจากไม่สามารถคุมตัว นายพู ไปยังจุดเกิดเหตุได้เพราะมีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 200-300 คน ปักหลักรอเพื่อเตรียมประชาทัณฑ์
สำหรับลำดับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจไล่เหตุการณ์ตั้งแต่ นายพู ปาดคอ 2 หนูน้อย แล้วปาดคอแมว 1 ตัว หลังจากนั้นได้พาย้ายจุดไปยังห้องน้ำใกล้ห้องประชุม เพื่อเซตเป็นฉากห้องน้ำในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นวินาทีที่ นายพู พบ นางมะลิ คุณยายวัย 67 ปี แล้วเกิดการต่อสู้กันจน นายพู ใช้กำลังกดคุณยายลงกับพื้นก่อนใช้มีดอีโต้ปาดคอฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดยตำรวจใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 1 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ซึ่งเดินทางมาแถลงผลจับกุม นายพู ด้วยตนเอง ระบุว่า การติดตามนายพู ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่หลายส่วน เนื่องจากคนร้ายวางแผนเดินทางหลบหนีหลังเกิดเหตุเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้เรียกตัว โชเฟอร์รถทัวร์และโชเฟอร์รถแท็กซี่ ที่ พานายพู เดินทางออกจากจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว
พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เจ้าหน้าที่คัดค้านการให้ประกันตัว หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นำตัวนายพู ส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการทันที เพราะครบกำหนดคุมตัว 48 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง แจ้งดำเนินคดี นายพู 5 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา / พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ความผิดตาม พรบ.ทารุณกรรณสัตว์ กรณีฆ่าแมวตาย 1 ตัว และ เป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ over stay ซึ่ง 3 ข้อหาแรกเป็นคดีอุกฉกรรจ์โทษหนัก จำคุกตั้งแต่ 20 ปี จนถึง ประหารชีวิต