เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย หลังก่อเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในจ.ยะลา ส่งผลมีผู้เสีย-บาดเจ็บ พร้อมสั่งคุมเข้มในพื้นที่ยะลา หลังพบการเคลื่อนไหวของระดับแกนนำ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิด ขณะนี้ ทางหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 47 ได้ทำการควบคุมผู้ต้องสงสัย 1 ราย อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ยืนยันว่า เมื่อมีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดี ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
ส่วนในพื้นที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าว พบการเคลื่อนไหวของแนวร่วมกลุ่มตลาดเก่า อุเซ็ง ธรรมวิทยาพร้อมพวก ใช้รถอีซูชุ มิวเซเว่นสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ติดตัวเลขสติกเกอร์ AG 486 พร้อมรถตาม 2-3 คัน 1 คัน เป็นรถอีซูซุดีแม็กสีบรอนซ์เงินคาดเป็นรถที่ประกอบระเบิดเสร็จ ใช้ถังแก๊สขนาด 50 กิโลกรัม 2 ลูก พร้อมแกลลอนน้ำมันจำนวน7-8 แกลลอน ตามรายงานจากแหล่งข่าว เพื่อจุดชนวนโดยวิทยุสื่อสาร เข้ามาพักพร้อมปฏิบัติในเขตเทศบาลนครยะลาเน้นเส้นทาง 5 แยกต่อคุรุยะลา นั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา สั่งการให้กองกำลัง 3 ฝ่าย ตั้งด่านตรวจลอย ตรวจค้นบ้านเป้าหมาย และให้ด่านตรวจถาวร ค้นหาและตรวจสอบทุกจุดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา และย่านบ้านตือเบาะ เขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก เป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงความเข้าใจ หลังมีสื่อนำเสนอข่าว การกู้เงินจัดการศพ สิบตรี ธเนตร พุทโธ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนและครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าใจผิด ยืนยันว่า กองทัพบกให้ความสำคัญอย่างมาก ในการดูแลสวัสดิการและสิทธิกำลังพลที่เสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้หน่วยต้นสังกัดอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือจัดการศพอย่างเต็มที่และสมเกียรติ สำหรับกรณี สิบตรีธเนตร จะได้รับพระราชยศเป็นกรณีพิเศษ เป็นร้อยโท พร้อมทั้งได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิกำลังพล รวมกว่า 2 ล้านบาท และมีเงินช่วยเหลือฝ่ายต่างอีกกว่า 1 แสนบาท รวมไปถึงเงินช่วยเหลือด้านสิทธิกำลังพลก็จะได้รับในโอกาสต่อไปด้วย