จากกรณีของสามเณรปลื้ม ที่ถูกคนร้ายสังหาร แล้วนำศพไปฝังโบกปูนทับ ใต้ฐานพระพุทธรูปในวัดวังตะวันตก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ล่าสุด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และวัตถุโบราณภายในกุฏิอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกแล้ว ยืนยัน ยังมีทรัพย์สินอยู่ครบ พร้อมเตรียมขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณ
ตรวจค้นกุฏิอดีตเจ้าอาวาส
8 มิ.ย.60 พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก นำคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และวัตถุโบราณบนกุฏิอดีตเจ้าอาวาส โดยได้เรียกช่างมาตัดกุญแจที่ถูกปิดกั้นทางขึ้น และเดินขึ้นไปบนชั้น2 ของกุฏิ ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวตามขึ้นไปบันทึกภาพการตรวจสอบทรัพย์สิน
จากการตรวจสอบ พบว่า บริเวณห้องใต้หลังคาบนกุฏิมีนกนางแอ่นทำรังอยู่ จำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระบุว่ารังนกเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ของวัดที่อยู่ในการควบคุมของนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล นอกจากนี้ ยังพบว่า มีงาช้างแกะสลักศิลปะแบบจีนอายุหลายร้อยปียังอยู่ พร้อมกับตะบันหมากของพระครูกาชาด อดีตพระเถราจารย์รูปสำคัญของเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อกว่า 100 ปีก่อน รวมทั้งมีพระพุทธรูปโบราณ และเครื่องถ้วยโบราณอีกหลายรายการ แต่ไม่ยืนยันว่าอยู่ครบหรือไม่ เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าของเดิมนั้นมีอยู่มากน้อยแค่ไหน
พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ระบุว่า จะร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการบันทึกภาพ และจัดทำทะเบียนให้ถูกต้อง จากการสังเกตด้วยสายตา น่าเชื่อว่ายังไม่มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินวัตถุโบราณ และรังนกนางแอ่นที่มีจำนวนมากเหล่านี้ จึงสามารถที่จะนำมาเป็นรายได้ในการฟื้นฟูทำนุบำรุงวัดวังตะวันตก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นบ้านอีกหลังของนางสาวปิยฉัตร หรือบิว ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งความคืบหน้าทางทีมข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
สั่งคุ้มครองพยาน คดีฆ่าสามเณรปลื้ม
ขณะที่ พลตำรวจตรีวันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกรังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และพันตำรวจเอกอดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช จัดกำลังคุ้มครองพยานปากสำคัญในคดีนี้ โดยเฉพาะพยานที่เป็นอดีตพระภิกษุ ที่เคยบวชและจำวัดอยู่ในวัดที่เกิดเหตุ พร้อมกับอดีตพระเด่นชัย ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่สุดของคดี หลังมีข้อมูลว่า มีบุคคลลึกลับคอยสะกดรอยติดตามพยานปากนี้ พยานหวั่นเกรงว่า จะไม่ปลอดภัยในชีวิต
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อาจจะกันบุคคลที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดปลายเหตุ อาทิ ผู้ที่ทำความสะอาดที่เกิดเหตุ ตามคำสั่งของผู้ต้องหามาเป็นพยานทางคดี แทนการดำเนินคดี หรือขออนุมัติออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากสำนวนการสอบสวนยังขาดการเชื่อมโยง หรือความเชื่อมโยงในบางช่วงบางตอน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีฆาตกรรมสามเณรปลื้ม ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทางคดีมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเชิญผู้ประกอบการที่เช่าอาคารพาณิชย์ของวัด เช่าที่ดินวัด เปิดแผงพระในเขตวัด มาให้ข้อมูลกับตำรวจ
มส.ถกจัดผลประโยชน์วัด
สำหรับการประชุมคณะกรรมการของมหาเถรสมาคม ช่วงบ่าย(14.00)วันนี้ ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.พงษ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุว่า จะยกกรณีฆาตรกรรมอำพรางสามเณรปลื้ม วัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช มาเป็นกรณีศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่มีการจัดทำข้อบังคับหรือกฏหมายจัดการทรัพย์วัดขึ้นมา เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ดังนั้น จึงจำเป็นต้อง มีพระวินัย หรือข้อบัญญัติในเรื่องนี้ โดย พศ. ไม่นิ่งนอนใจ เตรียมเข้าหารือกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อเสนออกกฎควบคุมกันเองของคณะสงฆ์ ในการจัดการบัญชีวัดอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตหรือขัดผลประโยชน์ ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ในการเปิดเผยรายรับรายจ่ายให้สาธารณะรับทราบได้ หรือฝ่ายรัฐหรือบ้านเมือง แก้ไข้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในประเด็นดังกล่าว เบื้องต้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเข้าร่วมประชุม กับทาง มส.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะเดินหน้าปฏิรูปในการเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่องในอนาคต