หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุอาคารเก่าแก่หน้าปากซอยราม 51/2 ถล่ม เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 3 เดือนในการสอบข้อเท็จจริง
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (8 มกราคม 2562) สภาวิศวกร พร้อมด้วย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. และ ฝ่ายโยธากรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ อาคารที่กำลังรื้อถอนทรุดตัวบริเวณปากซอยรามคำแหง51/2 ถนนรามคำแหงขาออก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. และ รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วสท. นำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ จาก วสท. ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ทำการเวนคืนพื้นที่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา เพื่อใช้ก่อสร้างสถานีรามคำแหง โดยว่าจ้างผู้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่เดือนธ.ค.2561 จนถึงวันเกิดเหตุ เพื่อจะมอบพื้นที่ให้กับบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) และบริษัทชิโนทัยเอ็นเจียเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อไป
รศ.สิริวัฒน์ กล่าวว่า งานด้านวิศวกรรม ไม่เพียงใส่ใจแต่งานก่อสร้างเท่านั้น การรื้อถอนนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนและสังคมแวดล้อมจำเป็นต้องตรวจสอบการรื้อถอนตั้งแต่ การวิเคราะห์ เพื่อวางแผนรื้อถอน ขั้นตอนและวิธีการรื้อถอน อุปกรณ์เครื่องจักรที่นำมาใช้ต้องเหมาะสมและปลอดภัย มีการป้องกันฝุ่นละอองและเศษซาก พร้อมทั้งมีวิศวกรควบคุมใกล้ชิด ตลอดจนมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์แก้ผู้สัญจรและผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
วันเกิดเหตุผู้รับจ้างรื้อถอนจากรฟม. ได้นำรถแบ็กโฮมารื้อถอนส่วนที่เหลือจากการรื้อถอนในเดือนธันวาคม 2561 ขณะทำการรื้อถอนจากด้านในตัวระเบียงนั้น แผ่นปูนที่เป็นกำแพงผนังของชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว จึงหลุดลงมากระแทกกับกันสาดด้านล่างเป็นเหตุให้เกิดการถล่มลงมาทับคนเดินถนนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ระหว่างรื้อถอนห้ามคนเดินผ่านฟุตบาทหน้าอาคารเด็ดขาด คนจึงต้องเดินบนถนนแทนทำให้เศษปูนหล่นลงมานะหว่างที่กำลังเดินผ่านได้รับบาดเจ็บ ส่วนอาคารข้างเคียงซึ่งเป็นธนาคารต้องได้รับการตรวจสอบถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของอาคาร และจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรสำหรับการใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ ศาสตราจารย์ อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร ระบุว่า เบื้องต้นต้องตรวบสอบแผนการรื้อถอน ว่าเป็นไปตามมาจรฐานหรือไม่ // ตรวจสอบนักวิศวกรว่ามีความเชี่ยวชาญเพียงพอในหารควบคุมการรื้อถอนอาคารที่มีอายุเก่าถึง 40 ปีหรือไม่ โดยหลังนี้จากนี้จะเรียกุ้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าให้ข้อมูล คาดว่าจะใช้ระยะเวลาสอบสวนไม่เกิน 3 เดือน หากพบข้อผิดพลาดที่เหตุขึ้นจากตัวบุคคล มีโทษสูงสุดในการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม