เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา และ สภ.บางปะกง กว่า 80 นาย บุกค้นบ้านเช่าทลายแก๊งลักรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งพบว่าผู้ต้องหามีด้วยกัน 4 คน ในจำนวนนี้เป็น 3 พ่อลูก ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน ที่สำคัญผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมของกลางที่ถูกชำแหละเตรียมขายเป็นจำนวนมาก
รถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ แบบแค๊ป 4 คัน รถเก๋ง 1 คัน พร้อมอะไหล่ที่ถูกชำแหละนับพันชิ้นถูกเก็บไว้ในบริเวณบ้าน เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 80 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 132 ม.7 ริมถนนสิริโสธร ขาเข้าฉะเชิงเทรา ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 ก.ค.61) หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งชำแหละรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา ซึ่งจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน และทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยเฉพาะชาย 3 คน คือ นายถิรภัทร ถิรธนพาณิชย์ เป็นพ่อ และลูกชายอีก 2 คน คือ นายจิรยุทธ และ นายสงกรานต์ ถิรธนพานิชย์ ส่วนหญิงอีก 1 คนเป็นภรรยาคนใหม่ของ นายถิรภัทร ทั้งหมดนี้เป็นแก๊งลักรถกระบะอันดับต้น ๆ ของประเทศ
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้สืบสวนติดตาม หลังกลุ่มคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ยเดือนละ 5-6 คัน พฤติการณ์ก็คือ ฝ่ายพ่อ (นายถิรภัทร) เป็นคนคอยเคลียร์รถก่อนตัดสัญญาณจีพีเอส และขับรถที่ขโมยไปซุกซ่อนก่อนทำการชำแหละ ส่วน นายจิรยุทธ เป็นคนลงมือลักรถเป้าหมายและ นายสงกรานต์ ขับรถยนต์ขณะตระเวนออกก่อเหตุเพื่อดูต้นทาง จากนั้นจะขับรถมาชำแหละที่บ้านหลังดังกล่าวแล้วส่งชิ้นส่วนขาย ซึ่งเช่าอยู่ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนร้ายเน้นเลือกรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ แบบแค๊ป เท่านั้น เนื่องจากง่ายต่อการโจรกรรมและการขายต่อ ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน เมื่อชำแหละเสร็จจะนำเครื่องยนต์อะไหล่ชิ้นส่วนต่าง ๆ นำไปขายที่ตลาดรับซื้อย่านบางนา โดยมีรายได้เฉลี่ยขั้นต่ำคันละ 100,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามคนร้ายที่ร่วมขบวนการต่อไป