รวบแล้วมือฆ่าโหดสาวกาฬสินธุ์เปลือยท่อนล่างหมกป่าภูพาน สารภาพหลอกเหยื่อออกมาพบก่อนลงมือสังหาร ปฏิเสธข่มขืน พร้อมให้การซัดทอดเพื่อนอีกคนเป็นผู้ข่มขืน ตำรวจเร่งตามล่าอีก
ความคืบหน้าคนร้ายฆ่าโหด น.ส.สาวิตรี อันชัยศรี อายุ 27 ปี ชาว อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและถูกของมีคมกรีดหลัง โดยเจ้าหน้าที่พบศพเปลือยท่อนล่าง ทิ้งไว้บริเวณลานหินอยู่บนเทือกเขาภูพาน ทางออกบ้านดงสวน ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ และระดมชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้าย พร้อมคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยพุ่งเป้าประเด็นสังหารชู้สาวและยาเสพติด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 เม.ย.61) พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ระดับสูงตำรวจภูธรภาค 4 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กำลังทหารและฝ่ายปกครอง ร่วมกันคุมตัวนายสงกรานต์ ไล้บุญ อายุ 32 ปี ชาว ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บริเวณลานหินอยู่บนเทือกเขาภูพาน ทางออกบ้านดงสวน ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งก่อนหน้านี้นายสงกรานต์เป็นผู้ต้องสงสัยที่ถูกคุมตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากเป็นคนที่โทรศัพท์ไปหาผู้ตายเป็นคนสุดท้ายจนล่าสุดรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.สาวิตรี
สำหรับการทำแผนฯ ในจุดแรกบริเวณลานหินเป็นจุดที่นายสงกรานต์ ซึ่งอ้างว่ามากับเพื่อนอีก2คนชื่อกึ่ม และไม่รู้จักชื่ออีก 1 คน นัด น.ส.สาวิตรี มาเพื่อเจรจาเรื่องหนี้สินที่ค้างกันค่ายาบ้า และส่งยากัน ก่อนที่นายกึ่มจะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายจนเสร็จ จากนั้นผู้ตายได้นั่งเสพยาบ้าอยู่ นายกึ่มได้ใช้มีดบังคับให้นายสงกรานต์ใช้ปืนแก๊ปที่นำมาด้วยยิง น.ส.สาวิตรี จนเสียชีวิตแล้วนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ้อนไว้ใจ้ก้อนหินบริเวณป่าละเมาะข้างวัดรุ่งศิลาราม บ้านดงสวนพัฒนา ม.7 ก่อนที่จะพากันแยกย้ายกันหลบหนีและถูกจับได้ดังกล่าว
นายสงกรานต์ ผู้ต้องหารับสารภาพและอ้างว่า รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเครือข่ายค้าและส่งยาบ้าด้วยกันมานานแล้ว อีกทั้งตนยังมีความสัมพันธ์เป็นกิ๊กกับผู้ตายด้วย โดยก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปหาผู้ตาย เพื่อหลอกให้ออกมารับยาที่บริเวณที่เกิดเหตุ และเพื่อพูดคุยเรื่องหนี้สินค่ายาบ้า ซึ่งตนมาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คนที่เป็นเครือข่ายค้ายาด้วยกัน ซึ่งทราบแต่ชื่อเล่นว่ากึ่ม และไม่รู้จักชื่ออีก1คน จากนั้นนายกึ่มได้มีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.สาวิตรี จนแล้วเสร็จก่อนที่จะให้ยาบ้า น.ส.สาวิตรี เสพ 1 เม็ด ซึ่งระหว่างที่ น.ส.สาวิตรี กำลังเสพยาอยู่นั้นนายกึ่มได้ใช้มีดบังคับให้ตนใช้ปืนแก๊ปยิง น.ส.สาวิตรี จนเสียชีวิตแล้วพากันหลบหนี ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ลงมือข่มขืน แต่เป็นนายกึ่มเป็นคนข่มขืน
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น เนื่องจากว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนยิง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การทั้งหมด เพราะยังขัดแย้งกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่กล่าวอ้างว่ามีเพื่อนมาด้วยและเป็นคนขืนใจผู้ตาย และชนวนเหตุการฆ่า ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบด้านนิติวิทยาศาสตร์ และผลจากแพทย์ รวมทั้งแนวทางการสืบสวนต่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า1คนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างหรือไม่ หรือเป็นการก่อเหตุคนเดียว ซึ่งต้องรอผลตรวจสอบจึงจะสรุปได้ แต่เบื้องต้นได้ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีและพกพาอาวุธปืน ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ตายเป็นเครือข่ายค้ายาบ้าในพื้นที่ แต่เป็นรายย่อย เนื่องจากผู้ต้องหาเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว 2ครั้ง อย่างไรก็ตามคดีนี้สามารถจับคนร้ายได้เร็วเป็นเพราะความร่วมมือของตำรวจทุกนาย
พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตำรวจไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของผู้ต้องหาเพราะขัดแย้งและไม่สอดคล้องกันหลายเรื่อง ทั้งช่วงเวลาเกิดที่ผู้ต้องหาอ้างว่ามาด้วยกันรวม3คน มีนายกึ่มข่มขืน ส่วนเพื่อนอีกคนยืนดู ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำให้การของพยาน ซึ่งอาจจะเป็นการกล่าวอ้างของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนและสอบสวนต่อว่ามูลเหตุที่แท้จริงคืออะไร มาจากชู้สาวหรือยาเสพติด และมีผู้ร่วมก่อเหตุกี่คน โดยเฉพาะการข่มขืน ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนยังคงลงพื้นที่ เพื่อสืบสวนเพิ่มเติมซึ่งจะสามารถคลี่คลายได้เร็ว ๆ นี้
