โซเชียลมีเดีย แชร์เรื่องของเด็กวัยกระเตาะนอนดูดขวดนม โดยพ่อของเด็กโพสต์ว่า ถ้าต้องเลือกระหว่าง “ยาบ้า” กับ “น้ำกระท่อม” จะเลือกสิ่งไหน อันไหนดีกว่ากัน โดยอ้างว่า เด็กมันร้องอยากกินน้ำ ซึ่งต่อมาได้โพสต์ว่า ไม่ได้ให้ลูกกินน้ำกระท่อม แค่ล้อเล่นเท่านั้น พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นชามะนาวยี่ห้อหนึ่ง ล่าสุด ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และ สน.หนองจอก ตามจับกุมพ่อของเด็กรายนี้แล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.61) พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.หนองจอก ควบคุมตัว นายกฤษณะ วิเศษจุมพล อายุ 20 ปี ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบสวนที่ สน.หนองจอก โดย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และคณะ ร่วมเดินทางเข้าสอบปากคำ ก่อนจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบต่อไป
พ.ต.อ ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าการโพสท์ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ สน.หนองจอก จึงให้ทางพ.ต.อ ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.หนองจอกตรวจสอบเรื่องนี้ทันที จนนำไปสู่การจับกุมนายกฤษณะ วิเศษจุมพล อายุ 20ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กดังกล่าวในข่วงบ่ายของวันนี้ และอยู่ระหว่างสอบปากคำว่าน้ำที่อยู่ในขวดนมเป็นน้ำอะไรกันแน่ เพราะหากให้เด็กกินน้ำกระท่อมใส่ในขวดนมนั้นจริง ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเป็น เพราะน้ำกระท่อม มีสารเสพติดไมทราไจนีน (Mitragynine) ที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง และถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นน้ำกระท่อมจริง ผู้ต้องหาจะมีความผิดในข้อ ผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ในการจำหน่ายจ่ายแจก สิ่งเสพติดประเภทที่5 ขณะเดียวกันถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแต่โพสท์ข้อความลงเฟซบุ๊กไปด้วยความสนุกสนาน ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 “นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์”
พ.ต.อ.ศักยะ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่าทำงานเป็นหนุ่มโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.หนองจอก และพักอาศัยอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ส่วนสาเหตุที่โพสต์ข้อความลงไปก็เพราะนึกสนุกเท่านั้น ไม่ได้ให้ลูกดื่มน้ำกระท่อมจริง ๆ โดยให้ลูกดื่มชามะนาวยี่ห้อดังรายหนึ่ง (ชาลิปตัน) ใส่ขวดนมเท่านั้น โดยข้อความในเฟซบุ๊กที่โพสต์นั้น ก็ไปโพสต์แถวบริเวณหอนาฬิกาในพื้นที่ สน.หนองจอก นี่แหละ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาจับกุมในที่สุด ซึ่งก็จะแจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 “นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ซึ่งอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ก.สาธารณสุข ชี้ให้ลูกดื่มน้ำใบกระท่อมเสี่ยงเป็นโรคจิตถาวร
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เป็นการเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายต่อเด็กอย่างมาก เนื่องจากการเอาสารพิษเข้าร่างกายเด็ก ถือเป็นการทารุณกรรมและละเมิดสิทธิเด็ก อีกทั้งกฎหมายไทยจัดให้กระท่อมอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทที่ 5 โดยในใบกระท่อมมีสาร “ไมทราไจนีน” ทำให้เกิดผลเสียต่อสมองและระบบประสาททำงานแปรปรวน ทำให้เกิดอาการทางจิต มีความบกพร่องทางสติปัญญา บางรายกลายเป็นความบกพร่องถาวร นอกจากนี้ ทางด้านร่างกายก็ไม่สามารถเติบโตตามวัยได้ ขนาดผู้ใหญ่ที่ได้รับสารนี้ยังได้รับผลกระทบ ถ้าเป็นเด็กที่ต้องได้รับการดูแลและพัฒนาเพิ่มเติม จึงเสี่ยงได้รับผลกระทบมากขึ้นไปอีก