22 เม.ย.60 พ.ต.ท.ไพบูลย์ กาศอุดม รองผู้กำกับการ (ป้องกันและปราบปราม) สภ.เมืองสุโขทัย และ พ.ต.ท.นราธิป คนธรรม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองสุโขทัย ร.ต.อ. ณัฐกิตต์ จินดานพรัตน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองสุโขทัย รับแจ้งเหตุพบศพเด็กหญิงวัย 5 ขวบบริเวณป่าละเมาะ ภายในซอยไม่มีชื่อในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยสุโขทัย รุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุควบคุมตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ทราบชื่อต่อมา คือ นายเอกพล ฟักแตง หรือตั้ม อายุ 31 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย ตกอยู่ในสภาพถูกชาวบ้านประชาทัณฑ์จนฟกช้ำบริเวณใบหน้า ริมฝีปากฉีกขาดโหนกแก้มบวมปูด และพบศพเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งผู้เป็นแม่และยายได้นำศพนอนราบอยู่ในเบาะ บริเวณหน้าบ้านใกล้เคียงกันในสภาพกางเกงขาสั้นสีแดงสวมเสื้อยืดสีขาว สังเกตเห็นบริเวณลำคอเด็กหญิงมีรอยฟกช้ำและรอยช้ำเป็นจ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายเอกพล หรือตั้ม นำส่ง รพ.สุโขทัย รักษาอาการบาดเจ็บในเบื้องต้น
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เป็นยายของเด็กหญิงผู้เป็นเหยื่อบอกเล่าว่า นายเอกพล เป็นลุงของเด็กหญิงวัย 5 ขวบผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะทราบเหตุที่เกิดขึ้น นายเอกพล ได้พาตัวเด็กหญิงไปด้วยอ้างว่า จะพาไปหาซื้อของกินที่ตลาดโต้รุ่งสุโขทัยและซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อประมาณเวลาเที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา จนกระทั่งตนเองสงสัยว่าทำไมหลานหายไปไม่กลับมาบ้านแต่ นายเอกพล กลับมานอนเล่นท่ามกลางความมืดอยู่ใต้ถุนบ้านพัก ตนเองจึงไปสอบถามว่าหลานหายไปไหนทำไมยังไม่กลับ นายเอกพล ตอบมาว่า อยู่ที่ตลาดใช้ให้ซื้อบุหรี่ตนเองไม่เชื่อจึงเค้นสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบแถม นายเอกพล ได้ร้องไห้โฮพร้อมอ้างว่า อะไร ๆ ก็โทษผมว่าทำตัวไม่ดีผมไม่รู้เรื่อง ตนเองจึงชวน นางบี (นามสมมติ) แม่ของเด็กออกตามหาลูกสาวแต่กลับพบเป็นศพอยู่ในป่าละเมาะด้านหลังบ้านห่างจากตัวบ้านประมาณ 50 เมตร จึงร้องเรียกให้เพื่อนบ้านช่วยกันจับตัว นายเอกพล ไว้พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายเอกพล ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุท่ามกลางประชาชนและญาติของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตที่ตะโกนด่าทอผู้ต้องหาอย่างรุนแรงขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ศพเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ทางโรงพยาบาลสุโขทัยได้นำส่งไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก พร้อมนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป