“ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” เข้าให้ปากคำที่กองปราบปราม เกี่ยวกับข้อมูลอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” หลังแฉผ่านรายการโทรทัศน์ว่า “ศศิธร” ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง!! ด้าน รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง เผยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดีมาก
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเข้าสอบปากคำ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตเจ้าของสถานบริการวิคตอเรียซีเครท ก่อนจะขายกิจการสถานบริการดังกล่าว เพื่อขยายผลการจับกุมที่กองบังคับการปราบปราม หลังทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายชูวิทย์ เข้ามาให้ปากคำ ในส่วนของคดีจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการโอนคดีไปยัง ดีเอสไอ ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนต่อ เพราะยังต้องรอคำสั่งจากคณะกรรมการคดีพิเศษฯอย่างเป็นทางการ
ส่วนสาเหตุที่คณะทำงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ต้องเชิญตัว นายชูวิทย์ มาให้ปากคำ เพื่อสอบถามข้อมูลในบางประเด็น โดยเฉพาะต้องการขอข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของสถานบริการ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการดำเนินกิจการ หรือการใช้บริการในสถานบริการ ซึ่งเป็นผลจากนายชูวิทย์ ได้ออกรายการโทรทัศน์และออกมาเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ที่ไประบุว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภาภรณ์ หุ้นส่วนวิคตอเรียซีเครท เป็นเพียงนอมินี มีชื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตสถานประกอบการ แต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง โดยข้อมูลต่าง ๆ คณะทำงานจะนำไปวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงและนำไปสู่การสืบสวนเพื่อหาเจ้าของสถานประกอบการตัวจริงต่อไป โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญ นายชูวิทย์ มาสอบปากคำในฐานะพยาน เกี่ยวกับเรื่องของการค้ามนุษย์ และขอยืนยันว่า นายชูวิทย์ นั้นให้การเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสำนวนคดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของเอกสาร ซึ่งคำให้การของ น.ส.ศศิธร เป็นไปตามเอกสาร แต่คำให้การของ นายชูวิทย์ นั้นมันไม่ใช่ ดังนั้น ถ้าพาดพิงถึงใครที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีประโยชน์ก็ต้องเจอ ในส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว 90 ปาก และในวันนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งเข้าข่ายมีความผิดใน 11 ข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการจึงลดไป 2 ข้อหา