เจอแล้ว!! เด็กหญิงอายุ 13 ปี ที่ถูก 2 ชายล่อลวงไปข่มขืนบนเกาะพะงัน และเมื่อช่วงเช้านี้ น้าชายได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.เกาะพะงัน ว่าเด็กคนดังกล่าวได้หายไปจากบ้าน ล่าสุดได้มีการออกตามหาตัวจนพบแล้ว ที่แท้ไปพักอยู่กับเพื่อน ใกล้กับบ้านของผู้ใหญ่บ้าน
จากคดี 2 คนร้าย พาตัวเด็กหญิงวัย 13 ปีไปข่มขืนบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิด 2 ครั้ง ต่อมาตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาตามที่เหยื่อแจ้งไว้ 1 รายและติดต่อขอเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ส่วนอีก 1 ราย ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว นอกจากนี้ ผู้ปกครองของเหยื่อ แจ้งกับตำรวจว่าเด็กหายตัวออกจากบ้านหลังมีการแจ้งความนั้น
ล่าสุด ช่วงบ่าย วันนี้ (6 ก.ค.) นายพงศ์ศักดิ์ หาญกล้า ผญบ.หมู่ 7 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน ได้พาตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ และถูกแจ้งว่าหายตัวไป เข้าพบกับ พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน โดยนายพงศ์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวออกมาว่าเด็กเจ้าทุกข์ในคดี หายตัวไป ทางญาติได้ประสานให้ตนช่วยติดตาม ตนพร้อมทีมงานจึงออกหาข้อมูลจนทราบว่า เด็กไม่ได้หายตัวไปไหน แต่มาพักอยู่กับเพื่อน ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของผู้ใหญ่บ้าน จึงได้พาตัวเด็กมาพบเจ้าหน้าที่ สอบถามจากเด็กไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มาพักอยู่กับเพื่อนเท่านั้น
นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น มีความเป็นมาอย่างไรตนไม่ทราบ เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะดำเนินการไปตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงผู้ปกครองของเด็ก ให้ช่วยกันสอดส่อง ดูแลพฤติกรรมของบุตรหลาน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพราะเท่าที่พบเห็นในพื้นที่ ช่วงกลางคืนมักจะมีเด็กออกมาเที่ยวกันเป็นประจำ ซึ่งอาจจะสุ่มเสียงต่อการเกิดเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า พื้นที่เกาะพะงัน ไม่เคยได้ยินข่าวประเภทนี้ เหตุที่เกิดอาจจะเกิดจากปัญหาของกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันเองมากกว่า รวมทั้งปัญหาภายในครอบครัว ทั้งปัญหาการหย่าร้าง และไม่ดูแลเอาใจใส่ต่อเด็ก เพราะคนในพื้นที่รู้ดีว่าการก่อเหตุลักษณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง จึงอยากให้สังคม และสื่อมวลชน ช่วยใช้วิจารณญาณ ในการติดตามข่าว อยากให้มองให้รอบด้านอย่ามองว่าเกาะพะงัน เป็นสถานที่อันตรายเพียงเพราะข่าวที่เกิดขึ้น
ทางด้านความคืบหน้าของคดี ล่าสุดทาง พ.ต.อ.สมชาย พร้อมพนักงานสอบสวน ได้พาตัวเด็กไปชี้จุดเกิดเหตุตามคำให้การรวม 4 จุด โดยจุดเกิดเหตุแรก เป็นบริเวณสะพานท่าเทียบเรือบ้านโฉลกหลำ หมู่ 7 ต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นจุดที่เด็กอ้างว่าถูกคนร้ายมาพาตัวขึ้นรถกระบะไป จุดที่ 2 บริเวณศาลาชมวิวอ่าวหินงาม ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กม. จุดเกิดเหตุครั้งที่ 2 บริเวณริมถนน หมู่ 1 ต.บ้านใต้ ซึ่งเป็นจุดที่เด็กอ้างว่าคนร้ายได้นัดให้มาพบ โดยคำให้การบอกว่าคนร้ายบอกให้เด็กมาพบ เนื่องจากอยากให้เด็กมาทำงานเสริฟอาหาร จากนั้นนำรถ จยย.ขึ้นท้ายรถกระบะ แล้วพาตัวเด็กไป จุดสุดท้าย เป็นบังกะโลแห่งหนึ่งบริเวณบ้านวกตุ่ม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุครั้งที่ 2 ที่เด็กอ้างว่าถูกคนร้ายพามากักตัวไว้ และลงมือข่มขืน ก่อนจะหนีออกไปได้ จากนั้นพาตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม และพาเด็กไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องโดยเร็ว โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งผลตรวจคราบอสุจิ และดีเอ็นเอ ซึ่งจะส่งให้สถาบันนิติเวช ตรวจสอบ ในส่วนของการติดตามตัวคนร้ายอีก 1 คนที่ถูกอ้างถึง คือ นายเคน ล่าสุดทางชุดสืบสวนได้เบาะแส ว่าผู้ต้องสงสัย อาจจะหลบหนีออกนอกพื้นที่เกาะพะงันไปแล้ว จึงประสานไปยังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 จัดทีมออกติดตามในพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะไปหลบซ่อนตัว เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
มีรายงานว่า สำหรับนายเคนนั้น เป็นชาวอำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยกำเนิด และจากการสืบสวน คาดว่าขณะนี้นายเคนได้หลบหนีไปที่บ้านเกิดแล้ว