เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปลอมเป็นพระบุกรวบ 8 พระเณรคาวัดมั่วสุมเสพยาบ้า ขยายผลปลอมเป็นพระไล่ตะครุบวัยรุ่นคนส่งยากลางทุ่งนา พร้อมยาบ้า อีก 197 เม็ด
นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บุกเข้าทำการตรวจปัสสาวะพระสงฆ์ จำนวน 5 รูป และ สามเณร อีก จำนวน 3 รูป ซึ่งเป็นพระ-เณร ลูกวัดโนนม่วง หมู่ที่ 3 ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปรากฏว่า พบมีสารเสพติดในปัสสาวะ ทั้ง 8 รูป
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าอังสะที่พระธาดา และ พระไพบูลย์ โดยพระไพบูลย์ รับสารภาพว่า เป็นคนสั่งซื้อยาบ้า มาจากวัยรุ่นซึ่งเป็นเอเยนต์ขายยาบ้าในเขตพื้นที่ อ.ขุนหาญ เป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ตน ครั้งละ 50 เม็ด ในราคาเม็ดละ 100 บาท จากนั้นก็จะขายให้กับพระเณรภายในวัด รวมถึงบรรดาวัยรุ่นในละแวกใกล้เคียง ในราคาเม็ดละ 140 บาท ซึ่งได้ทำมานานแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าได้ขยายผลการจับกุม โดยให้ นายไพบูลย์ หรือทิดไพบูลย์ หลังจากถูกให้สึก ติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากเอเยนต์ขายยาบ้ารายดังกล่าว และนัดหมายซื้อขายยาบ้า บริเวณ ถนนท้ายหมู่บ้าน บ้านพรานตะวันตก หมู่ 15 ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แฝงตัวใช้จีวรพระห่มตัวเพื่อให้เหมือนพระ เข้าไปยังจุดนัดหมาย ปรากฏว่า เอเย่นต์ขายยาบ้าหลงกลนำยาบ้ามาส่ง แต่ขณะที่จะมีการส่งมอบยาบ้าเกิดไหวตัวทัน ทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนี และโยนยาบ้าทิ้ง
แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถไล่จับกุมได้ ทราบชื่อ คือ นายรณยุทธ หรือเขียว พระครอง อายุ 25 ปี นำตัวไปทำการตรวจสอบจุดที่ นายรณยุทธ ทิ้งของกลาง ปรากฏว่า พบ ยาบ้า จำนวน 1 ถุง จำนวน 197 เม็ด ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีฟ้า โดยนายรณยุทธ ได้ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวเป็นของตนจริง ซึ่งจะนำมาขายให้กับพระที่สั่งซื้อไว้ แต่ถูกจับกุมได้ก่อน
เจ้าหน้าที่ถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายรณยุทธ ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย ส่วน นายธาดา หรือทิดธาดา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เสพ และ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และ นายไพบูลย์ หรือทิดไพบูลย์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย ขณะที่ พระและสามเณรอีก 6 รูปที่เหลือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวเข้าโครงการรับการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดผู้เสพยาเสพติด เพื่อให้โอกาสกลับตัวกลับใจคืนเป็นคนดีสู่สั่งคมต่อไป
การเข้าจับกุม พระและเณรลูกวัดดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้าน ทนเห็นพฤติการณ์ ของพระและเณร กลุ่มนี้ไม่ได้ที่มักจะรวมตัวจับกลุ่มกันมั่วสุมเสพและใช้สถานที่ภายในวัด ขายยาบ้า เป็นประจำ จนชินตา ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้เคยตักเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมเลิกพฤติการณ์ดังกล่าว จึงได้โทรศัพท์สายตรงแจ้งเจ้าตำรวจมาดำเนินการกวดล้างมารศาสนา และ ยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าให้หมดไปจากชุมชน
