เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมอดีตนักธุรกิจผลิตไม้พาเลทและรับเหมาก่อสร้างขนยาเสพติดล็อตใหญ่ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
26 มี.ค.60 ที่สำนักงานตำรวจภาค 7 อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ประสม หงส์โต ผกก.สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี ชุดสืบสวน สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร พล.ร.9 โดยร้อย รส.ที่ 2 ส.พัน 9 ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอภิชัย ยิ้มมุขผ่อง หรือเม้ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/365 ม.3 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 150 มัด รวม 300,000 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เฮโรอีน น้ำหนัก 800 กรัม รถยนต์โตโยต้า พรีอุส สีขาว ทะเบียน ฎผ 6006 กทม. ไอโฟน 6 พลัส 1 เครื่อง โดยตั้งข้อหามียาบ้า ยาไอซ์ และเฮโรอีน ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดส่งยาเสพติดมาทางไปรษณีย์จึงได้สั่งการกำชับให้ทุก สภ. ประสานงานกับทางนายไปรษณีย์ในเขตที่รับผิดชอบทุกหน่วย จนกระทั่งในวันที่ 23 มี.ค.60 ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายไปรษณีย์ลูกแก ม.6 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่า มีพัสดุไปรษณีย์ต้องสงสัยส่งมาจำนวน 6 กล่อง โดยต้นทางมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเชื่อว่าเป็นยาเสพติด ตำรวจจึงสังเกตการณ์ที่ไปรษณีย์เพื่อคอยดูผู้ที่เดินทางมารับกล่องพัสดุแต่วันที่ 23 มี.ค.60 กลับไม่มีผู้ใดมาติดต่อรับกล่องไปรษณีย์
จากนั้นในวันที่ 24 มี.ค.60 พบว่ามีกล่องพัสดุมาส่งอีก 1 กล่อง ระบุผู้ส่งและผู้รับเดียวกันกับพัสดุ 6 กล่องที่ส่งมาในช่วงแรก ตำรวจจึงได้เฝ้าดูเพื่อคอยสังเกตการณ์เกี่ยวกับผู้ที่เดินทางมารับพัสดุ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมารับ ต่อมาในวันที่ 25 มี.ค.60 เจ้าหน้าที่ช่วยกันเฝ้าดูจนถึงเวลา 11.50 น. ไปรษณีย์ใกล้จะปิดทำการ ขณะนั้น นายอภิชัย ยิ้มมุขผ่อง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาขับรถเก๋งมาจอดแล้วเข้าไปเซ็นรับกล่องพัสดุพร้อมยกขึ้นรถ ตร. ที่ซุ่มดูจึงตะครุบตัวเข้าจับกุม เมื่อแกะกล่องออกพบยาบ้ารวม 3 แสนเม็ด และอีก 1 กล่องเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 1 กิโลกรัมและเฮโรอีนอัดแท่งน้ำหนัก 800 กรัม บรรจุอยู่ในกล่องเดียวกัน
นายอภิชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในอดีตเคยเปิดบริษัทผลิตจำหน่ายออกแบบไม้พาเลทแต่ธุรกิจล่มเพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงหันมารับเหมาก่อสร้างแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ สำหรับยาเสพติดล็อตนี้ ไม่ใช่ของตน ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างขนให้เท่านั้นได้ค่าจ้าง 50,000 บาท คนที่บอกให้มารับบอกว่าเป็นอาวุธปืน ตนก็ไม่รู้ว่าภายในเป็นยาเสพติด
ทางด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 เผยต่อว่า ตำรวจได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินตาม พรบ.มาตรการ พ.ศ.2534 ประกอบด้วยรถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ของกลางยาเสพติดให้โทษ ยาบ้า ยาไอซ์ และเฮโรอีน ที่ทำการจับกุมได้มีมูลค่า 60 ล้านบาท และทรัพย์สินที่ตรวจยึดตาม พ.ร.บ. มาตรการมีมูลค่า 510,000 บาท รวมมูลค่าของกลางยาเสพติดให้โทษที่ทำการจับกุมได้และทรัพย์สินที่ตาม พรบ.มาตรการมีมูลค่า 60,510,000 บาท
ทั้งนี้ นโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในส่วนเรื่องปราบปรามการแพร่ระบาดยาเสพติด ทางตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมมือทั้งทางภาครัฐเอกชนทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ทั้งเรื่องการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการแจ้งข้อมูลเบาะแสการกระทำผิดในเรื่องดังกล่าว สำหรับ ภ.จว.กาญจนบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดน จะต้องเพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างต่อเนื่องทุกเส้นทางไว้ทั้งหมดทั้งทางรถยนต์ รถโดยสาร รถไฟ และทางไปรษณีย์