ล่าระทึกหนุ่มคลั่งยาทะเลาะเมียชักปืนขู่ ก่อนเมียโทรแจ้งตร.ให้จับตรวจฉี่ โกรธจัดขับรถยนต์กระบะแหกด่านพร้อมยิงใส่ตำรวจ ถูกไล่ล่าข้ามอำเภอยิงดวลปืนตลอดเส้นทาง สุดท้ายตำรวจวิสามัญฆาตกรรมตายคารถ พบของกลางยาบ้าในรถ 107 เม็ด
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 1 พ.ค.61 พ.ต.ต.มนตรี วรรณคง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเมายาเสพติดยิงสู้ตำรวจที่ถนนสายเบญจมะ-นาพรุ หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง รับแจ้งแล้วจคงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที พ.ต.อ.เชิดชัย โชติสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง นำตำรวจชุดสืบสวนรุดไปที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นได้มีการประสานงานกับพนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมทำการชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนถนนดังกล่าวพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผจ-4099 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ในเลนขาเข้าเมือง ที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพบว่ามีรอยกระสุนปืนยิงล้อจนแตกยับเยินทั้ง 4 ล้อ และที่ประตูด้านคนขับมีรอยกระสุนปืนจำนวน 1 รู
ซึ่งในขณะนั้นตำรวจยังไม่กล้าเข้าตรวจสอบเนื่องจากเกรงว่าคนขับมีอาวุธปืนและยังต้องสงสัยว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ภายใน และไม่มั่นใจว่าคนขับจะมีการขัดขืนต่อสู้อีกหรือไม่ เพราะมีคนเห็นคนขับยังไม่เสียชีวิตอยู่ในรถ ในที่สุดกำลังตำรวจชุดจู่โจมใส่เสื้อเกราะและโล่กันกระสุนอย่างมิดชิดเข้าทำการจู่โจม ใช้เครื่องมือทำการทุบกระจกรถด้านคนขับท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูนับ 1,000 คน แต่การตรวจตรวจสอบพบคนขับเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนเข้าทำการชันสูตรพลิกศพมีการส่งกำลังตำรวจชุด EOD เข้าตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าภายในรถไม่มีวัตถุระเบิดแน่แล้ว ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ้งเข้าทำการนำศพผู้ตายออกจากมาจากตัวรถ ทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมาคือนายประภวิษณุ์ บุญเนือง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/3 หมู่ 4 ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอกด้านซ้าย 1 นัด ตายคาพวงมาลัยรถ
และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่ยังพบยาบ้าตกซุกซ่อนอยู่ในตัวนายประภวิษณุ์ฯ จำนวน 107 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งมีร่องรอยยิงจนหมดลูกโม่ อยู่ที่ประตูคนขับ จึงเก็บไว้เป็นลักฐาน จากนั้นมีนางถานิตย์ หริกจันทร์ อายุ 35 ปี ภรรยาของนายประภวิษณุ์ฯ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อดูศพสามี และระบุกับตำรวจว่าอาวุธปืนที่ยิงต่อสู้กับตำรวจที่เจอในรถยนต์นั้นเป็นของบิดาของตนเอง ไม่คิดว่าจะมาใช้ยิงสู้กับตำรวจ
จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันนายประภวิษณุ์ฯ ผู้ตายนั้นได้ทะเลาะกับภรรยาคือนางถานิตย์ฯ ภรรยาอย่างรุนแรง แล้วใช้ปืนขู่จะยิงภรรยา ก่อนภรรยาระบุว่านายประภวิษณุ์ฯ มีอาการคล้ายกับคนเมายาเสพติดจึงแจ้งตำรวจให้มาจับกุมไปตรวจปัสสาสะ ทำให้นายประภวิษณุ์ฯ โกรธแค้นเป็นอย่างมาก ก่อนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านไปเจอด่านตรวจในพื้นที่ อ.พรหมคีรี และได้ขับแหกด่านตรวจขับหนีอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้ขับรถสายตรวจไล่ตาม ปรากฏว่านายประภวิษณุ์ฯ ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ที่พกติดตัวมายิงใส่ตำรวจชุดไล่ล่า ทำให้เกิดการดวลปืนกันตลอดเส้นทางตั้งแต่เขต อ.พรหมคีรี จนไปถึงเขต อ.เมือง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่ถนนดังกล่าวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมเส้นทางยิงล้อรถจนระเบิดทั้ง 4 ล้อ ทำให้รถไม่สามารถแล่นต่อไปได้ ก่อนตำรวจจะยิงใส่จนกระสุนเจาะหน้าอกนายประภวิษณุ์ฯ จำนวน 1 นัดเสียชีวิตในที่สุด
สำหรับสาเหตุตำรวจระบุว่าน่าจะมาจากนายประภวิษณุ์ฯ เสพยาบ้าเข้าไปจนเมาไม่ได้สติแล้วทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรง ซึ่งใช่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว เพราะก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกับภรรยาและตามไปทำร้ายร่างกายถึงที่ทำงานมาแล้ว ก่อนจะมีการทะเลาะกับภรรยาอีกครั้งจนคลุ้มคลั่ง ขับรถแหกด่านยิงต่อสู้ตำรวจชุดไล่ล่าก่อนโดนวิสามัญฆาตกรรมจนตายคารถดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะได้ทำการสอบสวนดำเนินการตามกระบวนของกฎหมายต่อไป
