ตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี นั่งเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาพะงัน ตรวจที่เกิดเหตุ หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษแฉ ถูกวางยาข่มขืนที่ชายหาด และตำรวจไม่รับแจ้งความ เบื้องต้นพบกล้องวงจรปิดริมหาดถูกบันทึกภาพทับไปแล้ว
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่หาดทรายรี ม.1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังเพจ “CSI LA” อ้างแหล่งข่าวจากสำนักงานข่าว “เดลีเมล์” ของอังกฤษ รายงานเหตุนักท่องเที่ยวสาวอังกฤษ วัย 19 ปี ถูกวางยาไม่รู้สึกตัวเเละถูกข่มขืน ขณะไปท่องเที่ยวที่หาดทรายรี เกาะเต่า หลังนั่งดื่มที่ “ลีโอบาร์” เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 และตำรวจไม่รับแจ้งความคดีข่มขืน รับแจ้งความเพียงโทรศัพท์มือถือและเงินสด 3 พันบาทหาย
ตำรวจได้ตรวจสอบที่ร้านลีโอบาร์ ริมหาดทรายรี ที่ผู้เสียหายระบุว่าถูกวางยาที่ร้านดังกล่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้าน และเส้นทางเดินตลอดแนวชายหาดทรายรี พบว่าตลอดแนวชายหาดทรายรี มีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 7 ตัว ทุกกล้องใช้งานได้ตามปกติ ร่วมถึงในร้านลีโอผับ แต่ทางผู้ประกอบการที่มีกล้องวงจรปิดระบุว่า กล้องทุกตัว จะบันทึกภาพได้เพียง 1 สัปดาห์ ตามวงรอบของการบันทึกภาพ ซึ่งหลังทราบว่าแหม่มสาวชาวอังกฤษ ถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 เมื่อมาตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด กล้องได้ทับทุกภาพทับไปแล้ว จึงไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ
ด้านผู้ประกอบการที่พัก ที่ผู้เสียหายชาวอังกฤษ เข้าพักกับเพื่อน เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตัวเองได้นัดกับผู้เสียหายหน้า ฟิตโบนบาร์ แต่ผู้เสียหายกับเพื่อนได้เดินทางมาก่อนแล้ว จึงไม่พบแหม่มสาวกับเพื่อนที่หน้าร้านดังกล่าว แต่ทราบว่าแหม่มสาวกับเพื่อนไม่ได้นั่งที่ร้านลีโอผับ แต่ได้ซื่อเครื่องดื่มใส่ถังไปนั่งดื่มกันกับกลุ่มที่บริเวณชายหาดทรายรี ซึ่งอยู่ห่างจากร้านไม่มากนัก จากนั้นก็ได้พบกับแหม่มสาวอีกครั้งในช่วงเช้า โดยแหม่มสาวบอกกับตัวเองว่า เมื่อคืนถูกวางยาและโดนข่มขืน จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่แหม่มสาวกับบอกว่า จะรีบไปเกาะพะงันกับเพื่อน เพื่อไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้
และหลังลงพื้นที่ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจคลี่คลายปมว่า แหม่มสาวชาวอังกฤษ ถูกวางยาข่มขืนตามที่เจ้าตัวอ้างหรือไม่
