คนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายวสันต์ แก้วชลคราม หรือ “เสี่ยสด” จนเสียชีวิตแล้วรีบหลบหนีไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุมาจากความขัดแย้งกับคนสนิทของพ่อบุญธรรมเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินและที่ดินที่พ่อบุญธรรมยกให้ “เสี่ยสด” ที่ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งหาพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมนำรถตู้และรถผู้ควบคุมผู้ต้องหา คาดว่าน่าจะไปบุกจับมือปืนสังหาร “เสี่ยสด” เร็ว ๆ นี้ หลังสายข่าวระบุว่าคนร้ายหนีไปกบดานที่ซุ้มมือปืน “เจ๊ท่าฉาง” จ.สุราษฎร์ธานี
เช้าวันนี้ (21 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวยังเกาะติดสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดียิง นายวสันต์ แก้วชลคราม หรือ “เสี่ยสด” เข้าเป็นวันที่ 4 พบว่า นายตำรวจระดับสารวัตรและชั้นประทวนหลายนายแต่งกายด้วยเครื่องแบบชุดฝึก ได้เตรียมตัวเดินออกจาก สภ.นาสัก เพื่อขึ้นรถตู้และรถสายตรวจ 2 คันที่จอดไว้ที่หน้า สภ.นาสัก จากการสอบถามทราบว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เตรียมความพร้อม เพื่อเดินทางไปราชการในจังหวัดใกล้เคียงกับ จ.ชุมพร ซึ่งรายงานดังกล่าวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพการเคลื่อนไหวดังกล่าว และผู้บังคับบัญชาขอร้องว่าอย่าเพิ่งเปิดเผยข่าวต่อสื่อมวลชนเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจน
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า ภายหลังที่ชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร และชุดสืบสวนกองบัญชาการภูธรภาค 8 ได้ร่วมกันคลี่คลายคดีมาติดต่อกันชนิดที่เรียกว่าหามรุ่งหามค่ำ จนในที่สุดได้พยานหลักฐานที่สามารถชี้ไปถึงตัวมือปืนที่ลงมือสังหาร และรถกระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ หลังจากนั้นได้ส่งทีมตำรวจไปประกบตัวเพื่อรอจังหวะเข้าควบคุมตัว จนถึงเช้าวันนี้มีการเคลื่อนไหวของตำรวจ สภ.นาสัก คาดว่า กำลังตำรวจดังกล่าวน่าจะเดินทางไปยัง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อควบคุมตัวมือปืนที่ไปกบดานในซุ้มมือปืนของ “เจ๊ท่าฉาง”
เช่นเดียวกับแหล่งข่าวจากนายตำรวจระดับสูง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ (20 มิ.ย.) ตำรวจได้สอบปากคำผู้ที่ทราบเหตุการณ์เพื่อที่จะกระชับและทำผังประทุษกรรมให้ชัดเจน จากนั้นตำรวจจะเร่งหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ รอยล้อรถกระบะจากที่เกิดเหตุ ดีเอ็นเอ จำลองวิถีกระสุน และรอยรองเท้าคนร้ายเนื่องจากวันเกิดเหตุมีฝนตกและดินหน้าบ้านของ “เสี่ยสด” สามารถเก็บรอยเท้าคนร้ายได้นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานที่สำคัญ คือ การสื่อสารระหว่างผู้บงการกับคนร้ายที่ลงมือยิง “เสี่ยสด” จะมีการตรวจเช็กเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ที่คาดว่าเป็นหมายเลขของคนร้ายและนำมาใช้ในพื้นที่ของ ต.นาสัก อ.ฉวี ก่อนหน้าที่จะลงมือสังหารประมาณ 15 วัน