เจ้าของบ้านและที่ดินถึงกับหลอนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเจ้าของเก่าทำการเกษตรแล้วขาดทุนกลับไปค้าขายปล่อยให้บ้านไม้และที่ดินร้างว่างเปล่า มีคนมาขอซื้อที่ดินในราคา 4 ล้านบาท พอตกลงกันได้นัดเจ้าของใหม่เพื่อจ่ายเงินงวดสุดท้ายและพาไปสำรวจบ้าน ถึงกับช็อกเพราะเจอโครงกระดูกและกะโหลกมนุษย์ในบ่อน้ำ
นี่เป็นภาพกะโหลกมนุษย์ภายในบ่อน้ำใต้ถุนบ้านไม้ร้างชั้นเดียว ในพื้นที่บ้านอ่างหนองแหน ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา และหน่วยประดาน้ำของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่มีบ่อปูนซิเมนต์เก็บน้ำไว้ใช้ ซึ่งภายในบ่อพบกระโหลกศีรษะและกระดูกของมนุษย์จมอยู่ใต้บ่อ
โดยก่อนหน้านั้น นายวัชรพงศ์ แขนอก อายุ 41 ปี ผู้พบกะโหลกศีรษะดังกล่าว เพิ่งจะซื้อบ้านไม้ร้างพร้อมที่ดิน 4 ไร่ต่อจาก นายเสงี่ยม เชียงนอก อายุ 73 ปี ในราคา 4 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการจะปลูกกล้วยหอมทองส่งจำหน่าย ได้นัดหมายมาจ่ายเงินในส่วนที่เหลืองวดที่ 2 จำนวน 1 ล้านบาท และก่อนจ่ายเงิน นายเสงี่ยม เจ้าของบ้านเดิมนัดหมาย นายวัชพงศ์ มาเปิดบ้านร้างเพื่อสำรวจทรัพย์สิน แต่ก่อนเข้าไปในบ้าน นายเสงี่ยม พบประตูมีร่องรอยถูกตัดหูกระต่ายคล้องกุญแจจนมีสนิมขึ้น และระหว่างที่ นายวัชรพงศ์ กำลังเดินสำรวจทรัพย์สินภายในบ้านก็ได้เปิดฝาถังปิดบ่อน้ำขึ้นถึงกับตกใจเมื่อเจอกะโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์จมอยู่ในบ่อน้ำดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ
นายเสงี่ยม เชียงนอก เจ้าของบ้านคนเดิม บอกว่า เดิมทีทำการเกษตรอยู่บริเวณดังกล่าวโดยขุดบ่อพักน้ำไว้ภายในบ้านและรดพืชผลทางการเกษตรเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ระยะหลังทำการเกษตรจนขาดทุน ตนเองจึงปิดประกาศขายที่ดินบริเวณนี้แล้วหันไปประกอบอาชีพค้าขายแทน โดยไม่เคยเข้ามาดูภายในบ้านหลังนี้อีกและ นายวัชรพงศ์ มาติดต่อขอซื้อและตกลงขายในราคา 4 ล้านบาท จนนัดหมายมาจ่ายเงินงวดสุดท้ายในวันนี้ 30 ก.ย.60 และมาพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ธนภัทร เหล่าทะนนท์ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเป็นกะโหลกศีรษะผู้ชาย ซึ่งต้องรอผลการพิสูจน์ของตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง นอกจากนั้น เมื่อสอบถามชาวบ้านในละแวกนี้ ระบุว่า เคยมีการแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เป็นเพศชายอายุขณะนั้น 33 ปี แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นชิ้นส่วนของบุคคลนั้นหรือไม่จึงต้องรอผลการพิสูจน์ก่อน และเมื่อทราบแล้วว่าชิ้นส่วนมนุษย์เป็นของใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนขยายผลหาสาเหตุของการเสียชีวิตของบุคคลดังกล่าวต่อไป