กองบัญชาการตำรวจนครบาลแถลงผลจับกุมหลายคดี เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 29-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 14 คดี ผู้ต้องหาทั้งสิ้น 15 ราย
อย่างในคดีของงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้จับกุมนางวริศรา ชาตรี อายุ 52 ปี หลังจากพบว่า เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ จัดหาเหยื่อมาค้าบริการทางเพศ ที่ประเทศเกาหลีใต้
จากการสอบสวน ทราบว่า นางวริศรา เป็นผู้รับเงินจากนายหน้าคนจัดหาเหยื่อ เพื่อไปจัดหาตั๋วเครื่องบิน หลอกเหยื่อให้ค้าบริการที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยพฤติการณ์ของแก๊งดังกล่าว ได้หลอกผู้เสียหาย ว่า จะให้ไปทำงานร้านนวดที่ประเทศเกาหลีใต้ มีรายได้ดี และหลอกให้เสียค่าใช้จ่าย 30,000 บาท ก่อนจะเดินทางไป และเมื่อถึงประเทศเกาหลีใต้แล้ว 1ในขบวนการที่อยู่ประเทศเกาหลีใต้ ก็จะหลอกผู้เสียหายไปตระเวณต่อรองราคา กับสถานบริการต่างๆ ซึ่งระหว่างที่รอการทำงานนั้น ก็จะนำไปขังไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้น ผู้เสียหายจึงใช้ไหวพริบหนีออกมา และไปร้องขอความช่วยเหลือกับสถานกงสุลไทย ประสานตัวกลับประเทศ
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า การกวาดล้างนี้ เพื่อมุ่งเน้นให้ปลอดล็อคเทียร์ 3 เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการค้าและระบบเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจนครบาล ได้จับกุมขบวนการค้ามนุษย์เป็นอันดับ 1 ซึ่งถือว่าเป็นผลที่น่าพอใจ และยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ต่อเนื่องตลอดไป เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ส่วนมาตรการดูแลเด็กที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี เข้าข่ายค้าประเวณีนั้น ต้องฝากถึงผู้ใช้บริการ หากใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ต้องถูกดำเนินคดี โดยอัตราโทษสูง ไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยมีความผิดถึงแม่เล้าด้วย และถึงแม้เด็กจะยินยอม หรือ ถูกบังคับขู่เข็ญ ก็ยังถือเป็นความผิดเช่นกัน