ความคืบหน้าจากกรณีที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ออกหมายเรียก พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้คน สนิทนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ให้มาพบ เพื่อทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคดีร่วมกันฟอกเงิน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้แจ้งกลับมายังพนักงานสอบสวนว่า ไม่สามารถเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาได้ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มาพบเป็นครั้งที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. ส่วน น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือ น้ำตาล ก็ได้ส่งทนายมาขอเลื่อนเข้าพบหนักงานสอบสวนเช่นกัน ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.ท. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบ เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (27 ส.ค.) พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมลูกชายและทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันฟอกเงิน กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อดีตนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะเทขายหุ้นนำเงินไปซื้อทรัพย์สินหลายรายการ
ทั้งนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ยังยืนยันว่าไม่หนักใจ พร้อมที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าติดใจในการทำงานของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพราะคดีผ่านมาแล้ว 3 ปีแต่เพิ่งมาแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ก็พร้อมจะต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล โดยในส่วนของคดีได้มีการปรึกษากับทีมทนายของ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ “ป้อนข้าว” อดีตโบรกเกอร์สาว เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาเดียวกัน โดยการเดินทางมาในวันนี้เป็นการมาก่อนวันนัดหมาย 1 วัน เนื่องจากพรุ่งนี้ตนเองติดภารกิจสำคัญ ไม่สามารถเดินทางมาได้ จึงขอเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้แทน
สำหรับขั้นตอนเมื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วนั้น สามารถเดินทางกลับได้ทันที เพราะเป็นการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ไม่ใช่หมายจับและไม่ต้องมีการยื่นประกันตัว โดย พ.ต.ท.บรรยิน มีสีหน้ายิ้มแย้มและตอบคำถามสื่อมวลชนในทุกคำถาม อย่างไรก็ตาม น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือ “น้ำตาล” อดีตพริตตี้สาว ผู้ต้องหาอีกรายที่ถูกออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.61) เวลา 10.00 น.
ก่อนหน้านี้กองปราบปราม ออกหมายเรียก น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ “ป้อนข้าว” อดีตโบรกเกอร์สาว ผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั้ง เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงินเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังคดีการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ “เสี่ยจืด” ที่เสียชีวิตหลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะที่เดินทางกลับจากไปตีกอล์ฟกับ พ.ต.ท.บรรยิน แต่ทางญาติของผู้ตายไม่เชี่อว่าเป็นอุบัติเหตุ กระทั่งร้องเรียนให้กองปราบฯรื้อคดี ก่อนจะมีความเห็นว่าเป็นเหตุฆาตกรรม อันมีสาเหตุมาจากการปลอมหลักฐานการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ มูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท ให้กับ น.ส.อุรชา และน.ส.กัญฐณา สาวคนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาได้มีการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการขายหุ้นดังกล่าว ก่อนนำไปซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ