เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จับรองสารวัตรป้องกันปราบปราม หัวหน้าชุดจู่โจม สน.สุทธิสาร ร่วมค้ายาเสพติดผ่านทางไปรษณีย์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
ร.ต.อ.สัมพันธ์ กันทะสอน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม หัวหน้าชุดจู่โจม สน.สุทธิสาร ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สนธิกำลังร่วมกับตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมขณะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (18 มิ.ย.61) หลังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับค้ายาเสพติด และศาลได้ออกหมายจับในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ “ป.ป.ส.” จับกุม นายอนุสรณ์ ทองสว่าง และ น.ส.อี่กองคำ ชาวเมียนมา ได้ขณะนำยาเสพติดประเภทไอซ์ 11.52 กรัม คีตามีน 50.38 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาบ้า 6 เม็ดบรรจุใส่ซองพัสดุ เตรียมส่งให้กับลูกค้าผ่านร้านไปรษณีย์เอกชน ย่านห้วยขวาง ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่ารับยาเสพติดมาจาก ร.ต.อ.สัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จึงได้ร่วมตำรวจปราบปรามยาเสพติดขยายผลเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสาร กระทั่งพบหลักฐานชัดเจน จึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหาและสนธิกำลังเข้าจับกุม
เบื้องต้น ร.ต.อ.สัมพันธ์ ปฏิเสธเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุมผู้ต้องหา 2 คนได้ก่อนหน้านี้แต่ยอมรับว่ารู้จักกันมาประมาณ 2 ปี จากการเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงในท้องที่ ขณะเดียวกันหลังถูกอายัดบัญชีก็อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเข้าชี้แจง พร้อมอ้างว่ามีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 1 แสนบาทซึ่งได้มาการเล่นแชร์ ซึ่งทาง พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุอีกว่า ร.ต.อ.สัมพันธ์ ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอที่จะดำเนินคดี และขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งการรับยาจากใคร และจะได้จับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป
ล่าสุด พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงให้รายงานตัวต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาด้วย ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในระดับ สวป.,รอง ผกก.ป. และ ผกก. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ตามคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด