ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร เปิดใจทั้งน้ำตา “ไม่ได้โกง” ค่าอาหารกลางวันเด็ก หลังถูกเด้งฟ้าผ่านั่งศาลากลาง6เดือน
นางสุพรรณ มีบัวทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ที่ถูก รองผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแต่กลับออกมาร้องเรียนว่าภายในโรงเรียนที่อยู่ในการบังคับบัญชาของ นางสุพรรณ ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร มีการคอรัปชั่นเรื่องการจัดซื้อวัสดุประเภทอาหารสดที่ใช้ทำเป็นอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนที่มีเด็กชั้นอนุบาลจำนวน 165 คน เด็กชั้นประถม 1 – 6 จำนวน 363 คน รวม 528 คน ที่มีงบค่าอาหารรายหัวๆละ 20 บาท ล่าสุดวันนี้ นางสุพรรณ ผอ.ร.ร.เทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ได้เปิดแถลงข่าวและชี้แจงกับสื่อมวลชนภายหลังตกเป็นจำเลยของสังคมว่า เป็นครูแต่แย่งกินอาหารเด็กจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตนั้น นางสุพรรณ ผอ.ร.ร.เทศบาลตะพานหินวิทยาคาร กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้บริหารส่วนการปฏิบัตินั้นเป็นไปตามขั้นตอนที่ต้องมีครูผู้ปฏิบัติเสนอโครงการ , ลงในแผนปฏิบัติการของโรงเรียนผ่านขออนุมัติจากรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนและนำเสนอต่อผู้บริหารเทศบาลเมืองตะพานหิน , ในแต่ละวันหัวหน้าโครงการอาหารกลางวันโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการทำรายการอาหารกลางวันตามที่แม่ครัวประมาณการว่า ในแต่ละวันจะต้องซื้อเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือพืชผักอะไรบ้าง จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่นำไปสั่งซื้อกับแม่ค้าที่มีอยู่ 8 ราย ที่เป็นผู้ค้าขายกับโรงเรียนและต้องมีกรรมการตรวจรับที่ประกอบด้วย นายธัชธรรม ศรีทา รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร เป็นประธานกรรมการตรวจรับที่ออกมาเป็นโจทก์ร้องเรียน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นประธานกรรมการตรวจรับพัสดุในโครงการอาหารกลางวัน ซึ่งแท้จริงแล้วหากพบความผิดปกติ ว่า เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือพืชผัก ที่จัดซื้อมาส่งไม่ครบตามจำนวนก็น่าจะต้องรีบบอกกล่าวยังผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ แต่การที่ รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร เป็นประธานกรรมการตรวจรับวัสดุอาหารโครงการอาหารกลางก็เป็นผู้ลงนามตรวจรับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 จนถึง วันที่ 9 มิถุนายน 2560 รวมถึงเป็น 1 ใน 5 ของกรรมการผู้มีอำนาจในการลงนามสั่งจ่ายเช็คในทุกๆครั้งด้วย แต่เหตุที่เกิดขึ้น ที่ รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ยกเอาช่วงระหว่างวันที่ 5-9 มิถุนายน 2560 มาเป็นข้อร้องเรียน ทั้งๆที่ช่วงวันและเวลานั้นผู้ที่ร้องเรียนนั่นแหล่ะเป็นผู้ลงนามตรวจรับวัสดุประเภทอาหารตามโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน รวมถึงเป็นผู้ที่มีชื่อลงนามในเช็คที่สั่งจ่ายให้กับแม่ค้า นางสุพรรณ ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า ตามที่ตนถูกร้องเรียนครั้งนี้เนื่องจากผู้ร้องมีเจตนากลั่นแกล้งตนเองด้วยเหตุผลความขัดแย้งส่วนตัว ดังนั้นจึงอยากขอความเป็นธรรมจากสังคมว่า อย่าเพิ่งพิพากษาว่าครูแย่งอาหารกลางวันเด็ก ก่อนที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงในเชิงลึก ตอบคำถามที่ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข่าวครึกโครมดังไปทั่วประเทศ แล้วทำไม นางสุพรรณ ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร เพิ่งออกมาแถลงข่าวหรือโต้ตอบ ซึ่ง ก็ได้รับคำตอบ ว่า ตนเองเป็นข้าราชการสังกัดอยู่กับท้องถิ่น คือ เทศบาลเมืองตะพานหิน ผู้บังคับบัญชาก็สั่งการว่าให้อยู่เฉยๆอย่าไปโต้ตอบ ไม่ผิดจะไปกลัวอะไร แต่กลับกลายเป็นว่า เหมือนถูกสาดน้ำใส่ฝ่ายเดียวจนทนไม่ไหวและวันนี้จึงได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้ออกมาแถลงข้อเท็จจริงดังกล่าว
สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวก็มีคณะกรรมการสถานศึกษารวมถึงเพื่อนครูในสังกัดโรงเรียนเทศบาลตะพานหินจำนวนนับสิบคนแห่มาให้กำลังใจ รวมถึงรองผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ที่เป็นต้นเรื่องในการร้องเรียนหรือเปิดโปงเรื่องดังกล่าวก็มายืนดู ผู้อำนายการโรงเรียนชี้แจงในครั้งนี้ด้วย โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือพูดใดๆกับลสื่อมวลชน หลังจากเสร็จสิ้นการชี้แจง ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร และ ครู ได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปดูในโรงครัวประกอบอาหารที่มีลูกจ้างของโรงเรียนเพียงคนเดียวแต่มีชาวบ้านที่เป็นแม่ค้ามาขายของในโรงเรียนอีก 3 คน เป็นจิตอาสาเข้ามาช่วยทำอาหารให้เด็กๆได้กิน ซึ่งวันนี้อาหารของเด็กชั้นอนุบาลเป็นเมนูหมูทอดกระเทียม ส่วนอาหารของเด็กชั้นประถมเป็นเมนูแกงพะแนงไก่ ซึ่งเด็กๆก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
ในส่วนของการที่มีเรื่องและเป็นประเด็นให้ต้องตั้งกรรมการสอบ นายมนตรี สุพรรณ ปรัดเทศบาลเมืองตะพานหิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นแล้วที่จะเร่งดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้และต้องรายงาน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ทุกสัปดาห์ ส่วนคำสั่งขอตัว นางสุพรรณ มีบัวทอง ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ไปช่วยราชการที่ห้องปกครองส่วนท้องถิ่น ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เป็นเวลา 6 เดือนนั้น ขณะนี้หนังสือสั่งการมาถึงแล้ว ซึ่ง นางสุพรรณ ผอ.โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ก็ยินดีน้อมรับคำสั่งและปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อแสดงเจตนาบริสุทธิ์ให้คณะกรรมการ หรือ ปปช. จังหวัดพิจิตร เข้ามาทำการสอบสวนต่อไป