ความคืบหน้ากรณีชายฉกรรจ์ขับรถกระบะสีดำ 4 ประตู เข้าไปจอดที่บริเวณบ้านของ นายวสันต์ แก้วชลคราม อายุ 31 ปี หรือ “เสี่ยสด” เศรษฐีหนุ่มเมืองชุมพรภายใน ซ.ทวีทรัพย์ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ก่อนใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง นายวสันต์ 3 นัดเสียชีวิตหน้าโรงจอดรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนาสัก ได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บ้านที่เกิดเหตุได้แล้ว ซึ่งสามารถบันทึกภาพพฤติการณ์คนร้ายได้ชัดเจน วันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแล “ภรรยาของเสี่ยสด” หลังผวาหนักร่ำไห้ช่วยตำรวจคุ้มครองตัว เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาคนร้ายต้องสงสัยป้วนเปี้ยนภายในบ้านที่จัดงานศพของ “เสี่ยสด” อีกด้วย
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร นำกำลังตำรวจของสถานีตำรวจภูธรนาสัก ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุใน ซ.ทวีทรัพย์ ม.12 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.61) เพื่อเยี่ยม น.ส.ปรัชญาณีย์ สระทองเลื่อน อายุ 29 ปี ภรรยาของ นายวสันต์ แก้วชลคราม หรือ “เสี่ยสด” และพูดคุยกับญาติที่อยู่ในงานศพโดย น.ส.ปรัชญาณีย์ อยู่ในอาการหวาดกลัวมาก ร่ำไห้เข้าโผกอด พล.ต.ต.สนธิชัย พร้อมกล่าวว่า ตนเองกลัวตาย เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณตี 2 มีชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายมือปืน 4 คนสวมหมวกปิดหน้า ขี่รถจักรยานยนต์มาป้วนเปี้ยนซอยหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ทำให้ตนเองตกใจรีบวิ่งขึ้นไปหลบในบ้าน คาดเป็นมือปืนหวังจะกลับมายิงแน่นอน โดยขอจัดงานและเผาศพ “เสี่ยสด” สามีของตัวเองอีก 5 วันให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นจะรีบย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น ทำให้ พล.ต.ต.สนธิชัย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนาสัก จัดกำลังดูแลความปลอดภัยภรรยาและลูกสาววัย 8 ขวบของ “เสี่ยสด” ตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ต.สนธิชัย ได้ขอคุยส่วนตัวกับภรรยาของ “เสี่ยสด” และเรียกตำรวจ สภ.นาสัก ประชุมอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะเปิดเผยว่าในเวลานี้ต้องยอมรับว่าตำรวจยังหาพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการสังหารหรือพยานผู้เห็นเหตุการณ์ต้องขอเวลาในการทำงาน แต่มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ แม้ในเวลานี้ยังไม่สามารถในสิ่งที่ตำรวจยังไม่รู้ชัดเจน เช่นเดียวกับภรรยาของ “เสี่ยสด” จะให้การอย่างไร ตำรวจก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า คดีนี้มีการวางแผนมาอย่างดีและใช้มือปืนระดับพระกาฬ เป็นการยิงของคนที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธซึ่งอาจเป็นคนในเครื่องแบบ เนื่องจากกลุ่มคนในครอบครัวของ “เสี่ยสด” มีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน จ.ชุมพร ที่มีความเชื่อมโยงกับซุ้มมือปืน จึงมีการวางแผนจ้างวานเพื่อเป้าหมายเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งภรรยาของ “เสี่ยสด” ได้ยินเสียงคนเดินบริเวณบ้านเมื่อ 2-3 วันก่อนแต่ไม่ได้เอะใจอะไร และเคยเตือน “เสี่ยสด” ไว้ว่าให้ระวังตัว เพราะทราบเรื่องความขัดแย้งของคนในครอบครัวแต่ “เสี่ยสด” พูดเสมอว่า ในเมื่อทรัพย์สินพ่อยกให้เราก็ควรเป็นสิทธิ์ของเรา ก่อนมาจบชีวิตอย่างน่าสลด