ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเข้าไปยิง นายสินชัย แก้วลิพอน อายุ 30 ปี เจ้าของร้านสักลายในพื้นที่กลางเมืองภูเก็ตเสียชีวติ และ นายจักรพันธุ์ สลวยเอี่ยม อายุ 28 ปี เพื่อนของผู้ตายบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 มี.ค.) ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต ระบุทราบตัวคนร้ายทั้ง 4 คนแล้วกำลังให้พนักงานสอบสวนไปขอขออนุมัติหมายจับมือยิง 1 คน ส่วนอีก 3 คนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนสาเหตุของการบุกยิงมาจากซื้อรถจักรยานยนต์แล้วจ่ายเงินไม่ครบ
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต (ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต) เปิดเผยว่า หลังจากชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เรียกทีมสืบสวนทั้งของ สภ.เมืองภูเก็ต และกองกำกับสืบสวน จ.ภูเก็ต มาประชุมร่วมกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อเร่งรัดคดี โดยนำคลิป และภาพถ่ายต่าง ๆ มาสรุป จนถึงขณะนี้ได้ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิง นายสินชัย และ นายจักรพันธุ์ แล้ว คือ “นายเอ็ม” หรือ นายวารินทร์ อายุ 26 ปี ชาว ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเคยต้องโทษในคดีพยายามฆ่า ครอบครองวัตถุระเบิด และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ระยะหนึ่งแล้วมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยคืนวันก่อเหตุไปกับเพื่อน 3-4 คน ไปทวงคืนเงินค่าขายรถจักรยานยนต์ที่ขายให้ นายสินชัย ผู้ตายในราคาประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทแต่ นายสินชัย จ่ายเงินให้ไม่ครบและเวลาผ่านมานานนายสินชัย ไม่ยอมจ่าย และเมื่อมาถึงน่าจะเกิดการโต้เถียงกัน นายวารินทร์ หรือ “นายเอ็ม” จึงคว้าปืนออกมายิงใส นายสินชัย แต่ นายจักรพันธุ์ เข้ามาห้ามจึงถูกยิงไปด้วย โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานพร้อมพยานชี้ภาพถ่ายแล้ว เพื่อขออนุญาตศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับคาดว่าจะได้หมายจับในเย็นวันนี้
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องหายังอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แต่หลังจากออกจากเรือนจำมา นายเอ็ม อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยอีก 3 คนนั้นเจ้าหน้าที่ทราบชื่อหมดแล้ว แต่กำลังสืบอยู่ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะจากกการดูภาพกล้องวงจรปิดแล้ว คาดว่าเพื่อนอีก 3 คนไม่น่าจะทราบว่า นายเอ็ม จะไปยิง นายสินชัย แต่เจ้าหน้าที่ก็จะทำการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ อีกครั้งว่า 3 คนที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดนั้นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากในวันก่อเหตุมาด้วยกันในรถยนต์ 3 คน และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 1 คน โดยหลังจาก นายเอ็ม ยิง นายสินชัย แล้ว เพื่อน ๆ ที่เหลือวิ่งกันกระจายขี้นรถขับหลบหนีทันที คาดว่าน่าจะมีการท้าทายกันมาก่อนหน้านี้คล้ายถูกท้ายทายว่าให้มาทวงเงินที่บ้านแต่เมื่อคนร้ายมาแล้ว นายสินชัย ไม่ให้จึงโต้เถียงกันและมีเหตุยิงกันในที่สุด