พบแล้วรถตู้ไอ้คลั่งชนดะย่านตลิ่งชัน
สภาพรถตู้ toyota ทะเบียน ฮพ 3279 กทม. สภาพด้านหน้า มีรอยกระแทกช่วงบังโคลน บุบสลายและเกือบหลุดลงมา โดยเฉพาะบริเวณด้านซ้ายไฟแตกและมีรอบบุบ ยุบลงไป รวมทั้งด้านหลัง ขวา มีสภาพเหมือนรถชน เข้าที่ด้านหลังขวา จนบังโคลนขาด และมีป้ายว่า รถโรงเรียน หมายเลข 19 อยู่ด้านหลัง และมีชื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งติดอยู่ด้านบนข้างรถแถบสีชมพูชัดเจน จอดอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ซอยเพชรเกษม 88
รถตู้ คันนี้เป็นของ นายวรท ชูสังข์ อายุ 36 ปี เจ้าของรถตู้ยีห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮพ2379 กทม. อาชีพขับรถรับ-ส่ง รักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชั้น
ตำรวจชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบรถตู้รับส่งนักเรียนหมายเลขทะเบียน ฮพ 3279 กรุงเทพมหานคร ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ที่บ้านเลขที่ 58/1 ภายในซอยเพ็ชรเกษม 88 นายวรท ชูสังข์ อายุ 36 ปี เจ้าของรถ ได้นำมาจอดทิ้งไว้เมื่อเช้าและหลบหนีไป พร้อมบุตร
ตำรวจได้อนุมัติออกหมายจับแล้ว จากตรวจสอบกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บตัวอย่าง dna ไปเทียบเคียง ส่วนคนในย่านนี้ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปกตินายวรทจะเป็นคนเงียบขึมไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และจะพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 58/1 กับภรรยาและลูก แต่พักหลังไม่เห็นภรรยาของนายวรท ในคืนวันเกิดเหตุนายวรท ก็ไม่ได้เดินทางมาพักที่นี่ จึงทำให้ไม่มีใครทราบข้อมูลว่า นายวรทไปทำอะไรที่ไหน ก่อนที่ในช่วงเช่านายวรท ขับรถมาจอดที่จุดนี้และก็พาลูกหลบหนีไปอยู่ที่อื่นทันที เช้ามาชาวบ้านก็มาพบรถตู้มาจอดสภาพพังยับเยิน
ทราบต้่อมาว่าเมื่อคืน นาย วรท ไปตามหาแฟนสาว ที่พักอาศัยอยู่กับแม่ภายในอพาร์ตเมนต์ “อลงกร”โดยแฟนสาวได้หนีมาอยู่กับแม่ เนื่องจากถูกนาย วรท ทำร้ายร่างกาย เพราะหึงหวงกลัวว่าแฟนสาวจะไปมีชายอื่นหลังจากทะเลาะกัน นายวรท โทรมาหาแม่แฟนสาวพร้อมทั้งตัดพ้อขอเลิกกับแฟนสาว และบอกว่าตนเองขับรถชนคนตาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมหาหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนมาเกิดเหตุ ได้ลงมาจากรถด้วยอาการมึนเมา และตะโกนเรียหาคนที่ชื่อ “ไอ้ยม” ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครรู้จักคนชื่อนี้ จึงบอกว่าไม่มีคนชื่อนี้อยู่บนตึก ผู้ต้องหาขับรถเข้าไปในซอยเพื่อกลับรถแต่เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยายนต์ของชาวบ้านแถวนั้นโดยไม่ได้ลงมาดู
หลังจากไปกลับรถในซอยออกมาก็มาชนรถจักรยานยนต์คันเดิมซ้ำ ซึ่งชาวบ้านต่างพากันนำม้านั่งหินอ่อนมาขวางกลางถนนเพื่อให้ผู้ต้องหาจอดรถลงมาคุย แต่ผู้ต้องหากลับขับรถชนม้านั่งแตกกระจาย และขับรถออกไปประมาณ 50 เมตร ก่อนจะหยุดและขับรถถอยหลังมาชนรถเบนซ์ที่จอดอยู่ข้างทางพังเสียหาย 2 คัน จากนั้นก็ได้ขับรถตู้ออกไปทันที โดยมีผู้ตายและผู้บาดเจ็บขับตามออกไป จากผู้ต้องหาขับรถชนนายฐิติศักดิ์ และนายวีรพล บาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้านนางปุญยนุช ชูสิงข์ อายุ 35 ปี ภรรยา เล่าว่า แต่งงานกับนายวรท นานกว่า 15 ปี มีลูก 2 คน เดิมที นายวรท พูดจาดีมีสัมมาคารวะไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่มาระยะหลัง 2-3 ปี เริ่มทะเลาะกันและใช้กำลังลงมือทำร้ายร่างกายหลายครั้ง จนทนไม่ไหน ในข่วงเย็นวันที่พฤหัสบดี ที่ผ่านมา นายวรท ไล่ออกจากบ้าน จึงหนีมาอยู่กับมารดา เพื่อให้นายวรท ใจเย็นลง แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุ ขอให้มอบตัวและใจเย็น และต้องให้สัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาอีก ทางฝ่ายภรรยา ก็พร้อมให้อภัย
