พยาบาลสาวหวิดสิ้นชื่อ! หลังคนร้ายเข้าล็อกตัวใช้มีดจี้คอหวังขืนใจและชิงทรัพย์ภายในหอพักพยาบาลโรงพยาบาลนางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าตัวฮึดสู้แต่ถูกมีดเฉือนนิ้วมือหวิดขาด คนร้ายเห็นท่าไม่ดีวิ่งหลบหนี สุดท้ายตำรวจใช้เวลาไม่นานรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้ทันควัน
ภาพชายผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ตามจับกุมตัวได้ หลังได้รับแจ้งเหตุชายปริศนาบุกเข้าไปในหอพักพยาบาลภายในโรงพยาบาลนางรอง แล้วใช้มีดจี้ขู่บังคับคาดหวังขืนใจพยาบาลสาวและชิงทรัพย์ จนเกิดการต่อสู้ขัดขืนทำให้พยาบาลสาวผู้เสียหายถูกมีดเฉือนได้รับบาดเจ็บ
ตรวจสอบเบื้องต้นพบข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนห้อง อีกทั้งยังพบรอยเท้าบริเวณห้องน้ำ มีดปลายแหลมที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และยาเส้นของคนร้ายบนที่นอนแต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวคนร้ายโดยได้จากการสอบปากคำ น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่จำรูปร่าง ท่าทาง และน้ำเสียงได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็พบชายต้องสงสัยดังกล่าว อายุประมาณ 18 – 19 ปี ทีแรกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้นแต่ชายคนดังกล่าวขับรถหลบหนี ตำรวจก็เลยขับรถติดตามไล่ล่าจนจับกุมตัวได้ในที่สุด และนำตัวสอบสวนที่โรงพยาบาลนางรอง ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่าใช่แน่นอน แต่ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.นางรอง
สอบถาม น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พยาบาลวิชาชีพผู้เสียหาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุไปทำธุระข้างนอก พอกลับเข้ามาในห้องพักไฟในห้องดับหมด จึงเดินไปตามช่างซ่อมบำรุงให้มาซ่อมจนใช้งานได้เหมือนเดิม สักพักไฟดับอีก เดินไปตามช่างอีกรอบ คราวนี้มีชายวัยรุ่นเข้าล็อกตัวแล้วใช้มีดปลายแหลมจี้ที่ลำคอ พร้อมขู่ว่าให้เงียบอย่าส่งเสียงดังถ้าไม่อยากโดนทำร้าย แล้วบังคับให้เดินเข้าไปที่ห้องด้านใน จังหวะนั้นตนเองพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่มือกำมีดของผู้ต้องหาและผลักตัวเองออก ทำให้มีดบาดเข้าที่นิ้วกลางด้านข้างซ้ายจนเอ็นขาด คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงหลบหนีไปพร้อมทิ้งหลักฐานต่าง ๆ จากนั้นรีบแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อประสานตำรวจมายังที่เกิดเหตุ ก่อนที่เพื่อนพยาบาลพาไปทำแผล ซึ่งตอนนี้่อาการปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องดูแลเรื่องของสภาพจิตใจ
ทางด้าน พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.นางรอง ได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ พบภาพคนร้ายปีนกำแพงด้านหลังโรงพยาบาลเข้ามาแล้วเดินไปที่ตึก ก่อนจะเข้าไปขโมยเสื้อคลุมของเจ้าหน้าที่ภายใน รพ. แล้วเดินเข้าไปก่อเหตุดังกล่าวมีดจี้เพื่อหวังขืนใจพยาบาลสาวดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งจากการตรวจปัสสาวะชายต้องสงสัย ผลตรวจปัสสาวะเป็นบวกซึ่งรับว่าเสพยาบ้ามาจริงแต่ปฏิเสธไม่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพยาบาล อย่างไรก็ตาม ตำรวจมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏในจุดเกิดเหตุและภาพวงจรปิด เป็นหลักฐาน มัดตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน