วันที่ 28 ก.พ.ร.ต.อ.เจริญ เดชพ่วง ร้อยเวรสภ.มาบตาพุด ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนผูกคอตายภายในบ้านพักไม่มึเลขที่ 16/26 ถนนมาบยาสะพาน2 ต มาบตาพุด อ เมืองจ ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์ รพ.เฉลิมพระเกียรติมาบตาพุด และ หน่วยกู้ภัยหลวงปู่ทิมอิสริโก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จประตูหน้าบ้านยังไม่ได้ติดตั้ง จึงเข้าไปตรวจสอบพบร่างของเด็กนักเรียนชายใส่ชุดนักเรียน เสื้อสีขาวกางเกงสีกากี ใช้เชือกจูงสุนัขผูกคอกับขื่อเหล็กภายในบ้านจนเสียชีวิต สภาพศพหน้าซีดริมฝีปากดำลิ้นจุกปาก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงแก้เชือกนำร่างลงมา หลังแพทย์ตรวจสภาพศพไม่พบบาดแผลอื่นนอกจากรอยรัดของเชือกที่คอเป็นรอยช้ำเขียว คาดเพิ่งเสียชีวิตประมาณ 1 ชม.จึงนำศพส่งชันสูตรต่อที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติมาบตาพุด เพื่อชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวน นางมะลิ ประเสริฐศรี อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ บอกว่า ผู้ตายพูดว่าพรุ่งนี้คงไม่ได้ไปสอบหรอก แล้วก็เข้าห้องไป ตอนเช้านางมะลิ ผู้เป็นแม่ เห็นผู้ตายแต่งตัวจะไปโรงเรียน ตนก็มั่วแต่เตรียมของจะไปขาย จนเวลา 08.00 น ยังไม่เห็นผู้ตายไปโรงเรียนจึงเดินไปดูที่ข้างบ้านที่กำลังสร้างยังไม่เห็นพบผู้ตายแล้วนคอกับขื่อบ้านเสียชีวิตแล้ว
หลังตั้งสติจึงรีบแจ้งตำรวจทันที ส่วนสาเหตุ คงจะเกิดจากผู้เสียชีวิตเครียดเรื่องตัดผม เกรงว่าถ้าไม่ได้ตัดอาจจะไม่ได้เข้าห้องสอบ ซึ่งลูกชายจะเก็บกดไม่ชอบพูดจากับใครเพียงแต่ที่ผ่านมาเคยบ่นว่าอยากกลับไปเรียนที่บ้านเดิมสุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านของพ่อที่เลิกลากันมานานกว่าสิบปีแล้ว
ไม่คาดคิดว่าบุตรชายจะถึงกับหนีปัญหาด้วยการผูกคอฆ่าตัวตายกับเรื่องเพียงแค่นี้ เสียใจมากถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะต้องหาเวลาเอาใจใส่บุตรชายมากกว่านี้ โดยลืมคิดไปว่าบุตรชายมักจะชอบเก็บตัวเงียบและเป็นคนชอบน้อยใจ และมีอาการเริ่มต้นของโรคซึมเศร้า แต่ด้วยต้องทำงานหาเงินเพียงคนเดียว เพราะได้เลิกรากับสามีหรือบิดาของผู้เสียชีวิต จึงจำเป็นต้องทำงานหาเงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว
จากการสอบถามเพื่อนบ้านต่างก็บอกว่าผู้ตายเด็กดี แต่จะชอบเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใครด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สรุปคดี หลังตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุประกอบกับผลการพิสูจน์สภาพศพเบื้องต้นของ แพทย์ สรุปว่าเป็นการผูกคอฆ่าตัวตายด้วยตนเอง ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต
