ชุดสืบสวนภาค6 สืบสวนจังหวัดสุโขทัย และตำรวจสภ.แสนภูดาษ สภ.บ้านโพธิ์ไล่สกัดจับกุมผู้นักโทษแหกคุกจากเรือนจำจังหวัดสุโขทัยแล้วหนีมากบดานที่ฉะเชิงเทราได้พร้อมแฟนสาวขณะขับรถเก๋ง
เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ร.ต.ท.เดชา ชาภู่พวง รองสวป.สภ.แสนภูดาษ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังออกตรวจพื้นที่แล้วได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ช่วยสกัดจับรถเก๋ง โปรตรอน สีขาว ทะเบียน กน 5032 จันทบุรี ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยคนร้ายที่แหกคุกออกมาจากเรือนจำกลางจังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่12 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งทางชุดสืบสวนภาค6 และสุดสืบสวนจังหวัดสุโขทัย ได้ออกติดตามตัวทราบว่านายสุรศักดิ์ โมรา อายุ 41 ปี หนึ่งใน2 นักโทษที่แหกคุกออกได้กลับมาที่บ้านที่จังหวัดจันทบุรีแล้วมีนางโสรส อาจเนียม อายุ 40 ปี เพื่อนสาวได้ออกเดินทางมากบดานที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
ขณะที่นายสุรศักดิ์ขับรถมาถึงสี่แยกหนองไม้แก่น ถนนสาย331 สัตหีบ-เขาหินซ้อน ก็มีเจอรถเก๋งของนายสุรศักดิ์พอดีทำให้มีการขับรถไล่ล่ากัน โดยใช้เส้นทางแหลมประดู่-หัวเนิน โดยตำรวจยิงยางรถทั้งสองล้อฝั่งขวาจนแตก ซึ่งคนร้ายได้พยายามขับด้วยความเร็วจนไปใช้เส้นทางหัวเนิน-บ้านโพธิ์ แล้วออกถนนสิริโสธร แต่ทางตำรวจได้ปิดถนนทุกเส้นทางทำให้คนร้ายขับรถวกกลับมาทางเส้นหัวเนิน-บ้านโพธิ์สุดท้ายรถเสียหลักเข้าข้างทางบริเวณใกล้เคียงบริษัท เอ็นเอสเค หมู่3 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ก่อนจะทิ้งรถหลบหนี ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมนางโสรส ได้ก่อน และไล่ล่าจับกุมนายสุรศักดิ์ ซึ่งสวมวิกผมเพื่ออำพรางตัวเอาไว้ได้ ซึ่เป็น ผู้ต้องหาดียาเสพติด หลบหนีออกมาจากเรือนจำสุโขทัย และนางโสรส อาจเนียม อายุ 40 ปี เพื่อนสาวที่นั่งมาภายในรถ ก่อนทั้ง 2 จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปทำการสอบสวนต่อยังสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ฉะเชิงเทรา
สำหรับนักโทษชาย สุรศักดิ์ โมรา บ้านอยู่ ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เป็น 1 ใน 2 นักโทษคดียาเสพติดเรือนจำจังหวัดสุโขทัย ที่ปีนขึ้นช่องฝ้าเพดานของห้องขังออกไปนอกตัวอาคารเรือนนอน แล้วใช้ผ้าห่มที่ฉีกเตรียมไว้มัดต่อกัน แล้วโยนข้ามกำแพงปีนโรยตัวหลบหนีออกไปเมื่อกลางดึก (12 พ.ค.) ที่ผ่านมา พร้อมกับขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านใช้ในการหลบหนี ก่อนที่นักโทษชาย สุรศักดิ์ โมรา จะเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดจันทบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 และตำรวจสืบสวนภูธรสุโขทัย ตามสืบสวนหาข่าวมาทราบว่าคนร้ายจะผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงประสานตำรวจในพื้นที่ให้ช่วยดำเนินการจับกุม จนสามารถจับกุมตัวได้สำเร็จ