ตำรวจรวบสาวใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนลักทรัพย์ตามร้านกาแฟ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง พบหมายจับอื้อ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.สมภพ เล็กกลาง สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ไพศาล เดชกัลยา ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้ ร.ต.ท.สมโชค คงตำหนิ ร.ต.ท.กมล ธีระภาพ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.รัชดาพร หรือกุ้ง เฟื่องรอด อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ 260/2560 ลงวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ข้อหาลักทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อลายจุดดำ (ที่ใส่ก่อเหตุ) โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณบ้านเช่าไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านกฤษดานคร ซ.24 ถนนแจ้งวัฒนะ 30 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เวลาประมาณ 10.40 น. นางคล้อย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่งไม่มีชื่อในซ.ช่างอากาศอุทิศ 10 แขวงและเขตดอนเมือง กทม. เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าถูกหญิงรูปร่างอ้วนขับขี่รถจักรยานยนต์ จำสีและป้ายทะเบียนไม่ได้ มาสั่งให้ทำอาหารจำนวน 5 กล่อง ซึ่งขณะที่ตนทำอาหารอยู่นั้นได้วางโทรศัพท์มือถือ และแทปเล็ต ไว้บนชั้นวางในร้าน จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้บอกว่าจะกลับมารับอาหารที่สั่งไว้ภายหลัง แล้วรีบขับรถออกไปอย่างมีพิรุธ เมื่อตรวจสอบพบว่าโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต ที่วางไว้ได้หายไปจึงเดินทางเข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามคนร้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ บุคคลตามภาพวงจรปิด และออกทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.รัชดาพร หรือกุ้ง เฟื่องรอด อายุ 46 ปี พักอยู่ในพื้นที่ปากเกร็ด จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตุการจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด จากการสอบสวน น.ส.รัชดาพร ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยจะเลือกเหยื่อที่อยู่ในร้านกาแฟ หรือร้านอาหารตามสั่งที่มีคนซื้อเยอะๆ เพื่อความสะดวกในการก่อเหตุ โดยจะเข้าไปทำทีเป็นสั่งของจำนวนเยอะๆ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อทำอาหารให้ก็จะออกอุบายให้เกิดความรีบเร่งและวุ่นวาย ขณะเดียวกันก็จะมองหาทรัพย์สินต่างๆ ภายในร้าน เมื่อเหยื่อเผลอก็จะแอบขโมยทรัพย์สินออกมาแล้วขับรถออกมาทันที ซึ่งที่ผ่านมาก่อเหตุมาแล้วที่จำได้ประมาณ 50 ครั้งในหลายพื้นที่ เมื่อได้ทรัพย์สินมา ถ้าเป็นของก็จะนำไปขายโดยทันที ล่าสุดที่ได้มาเป็นโทรศัพท์ และแท็บเล็ต หลังก่อเหตุได้นำไปขายที่มาบุญครองในราคาทั้งหมด 8,500 บาท เงินที่ได้มาก็นำมาใช้จ่ายในครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.รัชดาพร มีหมายจับติดตัวอย่างน้อยอีก 6 หมายในพื้นที่ สน.บางเขน สน.มีนบุรี สน.วังทองหลาง สน.โชคชัย สน.ลาดพร้าว อีกทั้งมีการแจ้งดำเนินคดีไว้แล้วอีกจำนวนมากในพื้นที่ กทม. จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งทั้งหมดเป็นการก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2547 – 2560
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.รัชดาพร ซึ่งคาดว่าน่าจะลงมือก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในอีกหลายพื้นที่ เนื่องจากมีผู้เสียหายทยอยมาดูตัว และต่างยืนยันว่า เคยถูก น.ส.รัชดาพร ก่อเหตุเช่นกัน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนคดีในท้องที่อื่นๆ ได้ประสานให้เข้ามาดูตัวเพื่อทำการดำเนินคดีต่อไป