จับเพิ่มอีก 12 รายเครือข่ายอดีตผู้การ “สุทิพย์” เหยื่อชั้นผู้น้อยเฮได้เงินคืนทั้งหมด เด้ง พงส.11 นาย บกพร่องต่อหน้าที่
วันที่ 2 ต.ค.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) กล่าวถึงการดำเนินคดีกับเครือข่าย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการจังหวัดเลย ที่ร่วมกันฉ้อโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ จ.เลย ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 12 คน หนึ่งในจำนวนนั้นมีเจ้าหน้าที่ส่วนยุติธรรมรวมอยู่ด้วย จำนวน 6-7 คน ทั้ง 12 คน นั้นเป็นแถว 3 มีเงินไหลเวียนในบัญชี 50-60 ล้านบาท เรื่องการฉ้อโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดเลย ตั้งแต่มีการดำเนินการมาจนถึงวันนี้แยกเป็น 2 ส่วนทั้งการสืบสวนและสอบสวน มี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนสืบสวน
ในส่วนของสำนวนสอบสวนขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก หลังจากนี้น่าจะไม่เกิน 2 สัปดาห์ คงสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนทั้งหมดส่งฟ้องพนักงานอัยการได้ ส่วนการจับกุมมีการจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว 44 ราย อายัดทรัพย์ไปแล้ว 200 กว่าล้านบาท วันนี้จะเห็นได้ว่าความเสียหายเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย 200 กว่าล้าน ส่วนประชาชนทั่วไปถูกหลอกลวงประมาณ 700 ล้านบาท แต่ขณะนี้ประชาชนผู้เสียหายที่มาแจ้งความยังไม่มากนัก ฝากไปยังประชาชนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้มาแจ้งความที่พนักงานสอบสวนภูธรภาค 4 ในเย็นนี้จะลงไปสอบสวนพร้อมด้วย พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ รอง ผบ.ตร.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่าผู้เสียหายที่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อยขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง เราสามารถนำเงินมาคืนได้เกือบทั้งหมด เพราะทรัพย์สินที่ยึดมาได้แล้วกว่า 200 ล้านบาท เราจะเอาความเป็นธรรมทั้งหมดคืนให้ตำรวจชั้นผู้น้อย
ขณะเดียวกันวันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนชุดเดิมที่พบความบกพร่อง จำนวน 11 นาย มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยวันนี้ต้องทำความจริงให้ปรากฎ ในส่วนของตำรวจชุดใดก็ตามที่ทำคดีแล้วไม่มีการอายัดเงิน แจ้งการจับกุมหรือปล่อยปละละเลย ถือเป็นความผิด หน้าที่เราไม่ควรปกป้องใคร และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วนอย่างแท้จริง
ส่วนของเจ้าหน้าที่ยุติธรรมที่ร่วมกระทำความผิดร่วมกับเครือข่าย พล.ต.ต.สุทิพย์ นั้น เราได้มีการประสานต้นสังกัดและผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกด้าน ทั้งหมดที่ถูกจับกุมเรามีหลักฐานชัดเจน มีเส้นทางการเงินที่ ปปง.มาแสดงและเจ้าตัวก็รับสารภาพ โดยยอมรับว่ามีการชักชวนให้มาลงทุนจริง และเอาเงินคนอื่นมาลงทุนโดยได้เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์ ในส่วนของเงินที่นำมาลงทุนนั้นก็คือเงินของสหกรณ์ จังหวัดเลย