เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมโชเฟอร์แท็กซี่ ก่อเหตุพยายามข่มขืนและลักทรัพย์ พีอาร์สาวร้านอาหารย่านทองหล่อ เมื่อเวลา 03:00 นาฬิกา วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา สารภาพ อ้างฝ่ายหญิงเมา และหน้าตาดีจึงฉวยโอกาส ลงมือลวนลามหญิงสาว และขโมยเงินสด
พลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คุมตัวนายบุญเลิศ ผ่องใบทอง อายุ 52 ปี คนขับรถแท็กซี่ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุพยายามข่มขืนและลักทรัพย์ พีอาร์สาวร้านอาหารย่านทองหล่อ
โดยอ้างว่าได้รับผู้เสียหายขึ้นรถมาจากย่านทองหล่อ มีสภาพมึนเมาพูดไม่รู้เรื่องว่าจะให้ไปส่งที่ไหน ระหว่างทางเห็นผู้โดยสารหน้าตาดีจึงจอดรถบริเวณทางพิเศษฉลองรัช ใกล้ทางออกถนนจตุโชติ เขตสายไหม เพื่อลงมือลวนลามหญิงสาว และขโมยเงินสด และทรัพย์สินแหวนทอง ก่อนที่ผู้โดยสารจะเริ่มขัดขืนหนีลงจากรถไป ซึ่งต่อมาทราบข่าวว่าผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว จึงหลบหนีไปที่บ้านญาติในจังหวัดอ่างทอง /จังหวัดลพบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งในทุกจุดเจ้าหน้าที่สืบทราบและพบตัวทุกครั้ง แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีเข้าป่าหญ้า จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ที่ห้องพักย่านดอนเมือง
นายบุญเลิศ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าตัวเองเป็นผู้ขับรถแท็กซี่รับหญิงสาวคนดังกล่าวมาจากย่านทองหล่อ ที่ตลอดทางมีอาการมึนเมาและเปลี่ยนที่หมายหลายครั้ง จนกระทั่งบอกว่าจะไปลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แต่ตนเองไม่อยากไปเพราะเกรงว่าจะไม่ได้ผู้โดยสารกลับมา กระทั่งหญิงสาวมีลักษณะขอร้อง ใน ระหว่างนั้นตัวเองก็เริ่มคิดไม่ดีกับผู้เสียหาย จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุจึงจอดรถลงไปที่เบาะด้านหลัง และฉวยโอกาสลวนลามพีอาร์สาว
ขณะเดียวกันผู้ต้องหา ยังฝากเตือนผู้ที่คิดจะก่อเหตุในลักษณะแบบเดียวกับตนเองให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนติดตามไปได้ทุกที่
ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่ในทางสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมประชาสัมพันธ์ให้หญิงสาวที่อาจจะเคยถูกผู้ต้องหารายดังกล่าวก่อเหตุให้เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป พร้อมฝากไปถึงหญิงสาวที่จะใช้รถโดยสารสาธารณะในเวลากลางคืน หากมีอาการมึนเมา หรือไม่ได้สติ ก็ควรมีเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้เดินทางไแด้วย เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้พบว่าผู้ต้องหามีประวัติเคยต้องโทษ 3 คดี คดีข้อหาลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.คันนายาว และปทุมธานี และข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ย่านมีนบุรี โดยหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมไปฝากขังในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” และข้อหา “กระทำอนาจารบุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลเช่นว่านั้นไม่สามารถขัดขืนได้